เสื้อแดงต้องปกป้องประชาธิปไตย
และต้องเดินหน้าพัฒนาเสรีภาพด้วย
และต้องเดินหน้าพัฒนาเสรีภาพด้วย
ใจ อึ๊งภากรณ์
การชุมนุมของคนเสื้อแดงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการปกป้องประชาธิปไตยจากอำนาจเถื่อน
ซึ่งประกอบไปด้วยม็อบสุเทพ ตุลาการเอียงข้าง องค์กร “อิสระจากกระบวนการประชาธิปไตย”
กองทัพบก ฝูงอธิการบดีรักเผด็จการ และเอ็นจีโอที่ไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน
เพราะถ้าปล่อยให้ฝ่ายปฏิกิริยาชุมนุมอยู่ฝ่ายเดียว ก็เหมือนว่าฝ่ายประชาธิปไตยไม่มีพลังและไม่มีเสียง
การปักธงของเสื้อแดงว่า ถ้ามีการล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
หรือล้มระบบการเลือกตั้งและนำระบบแต่งตั้งของอำมาตย์เข้ามาแทนที่
ประชาชนจำนวนมากจะไม่ยอมรับ สำคัญมากแต่ไม่เพียงพอ
ซึ่งประกอบไปด้วยม็อบสุเทพ ตุลาการเอียงข้าง องค์กร “อิสระจากกระบวนการประชาธิปไตย”
กองทัพบก ฝูงอธิการบดีรักเผด็จการ และเอ็นจีโอที่ไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน
เพราะถ้าปล่อยให้ฝ่ายปฏิกิริยาชุมนุมอยู่ฝ่ายเดียว ก็เหมือนว่าฝ่ายประชาธิปไตยไม่มีพลังและไม่มีเสียง
การปักธงของเสื้อแดงว่า ถ้ามีการล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
หรือล้มระบบการเลือกตั้งและนำระบบแต่งตั้งของอำมาตย์เข้ามาแทนที่
ประชาชนจำนวนมากจะไม่ยอมรับ สำคัญมากแต่ไม่เพียงพอ
เราต้องไม่นิ่งนอนใจ
และต้องระวังการนำจากพรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช. เราต้องระวังการที่เขาจะพาเราไปยอมจำนนเพื่อประนีประนอมกับฝ่ายตรงข้าม
เพราะถ้ามวลชนเสื้อแดงไม่จัดตั้งอิสระและนำตนเอง พอถึงจุดแตกหัก
แกนนำก็จะเป่าหูและโฆษณาว่าต้องถอยคนละก้าวเพื่อความสงบ อย่าลืมว่าพรรคเพื่อไทยแสดงธาตุแท้ไปแล้วครั้งหนึ่ง
เมื่อเสนอกฏหมายนิรโทษกรรม ที่ยกโทษให้ทหารและผู้นำประชาธิปัตย์มือเปื้อนเลือด
และหวังนำทักษิณกลับบ้านบนซากศพวีรชนเสื้อแดง แถมยังเสนอไม่ให้ปล่อยนักโทษการเมือง
โดยเฉพาะนักโทษ 112 ดังนั้นเราไว้ใจพรรคเพื่อไทยไม่ได้เลย และไว้ใจแกนนำ นปช.
ว่าจะไม่คล้อยตามพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้เช่นกัน
และต้องระวังการนำจากพรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช. เราต้องระวังการที่เขาจะพาเราไปยอมจำนนเพื่อประนีประนอมกับฝ่ายตรงข้าม
เพราะถ้ามวลชนเสื้อแดงไม่จัดตั้งอิสระและนำตนเอง พอถึงจุดแตกหัก
แกนนำก็จะเป่าหูและโฆษณาว่าต้องถอยคนละก้าวเพื่อความสงบ อย่าลืมว่าพรรคเพื่อไทยแสดงธาตุแท้ไปแล้วครั้งหนึ่ง
เมื่อเสนอกฏหมายนิรโทษกรรม ที่ยกโทษให้ทหารและผู้นำประชาธิปัตย์มือเปื้อนเลือด
และหวังนำทักษิณกลับบ้านบนซากศพวีรชนเสื้อแดง แถมยังเสนอไม่ให้ปล่อยนักโทษการเมือง
โดยเฉพาะนักโทษ 112 ดังนั้นเราไว้ใจพรรคเพื่อไทยไม่ได้เลย และไว้ใจแกนนำ นปช.
ว่าจะไม่คล้อยตามพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้เช่นกัน
ยิ่งกว่านี้มวลชนเสื้อแดงต้องแลกเปลี่ยนพูดคุยกันอย่างเป็นรูปธรรม
ว่าถ้าฝ่ายตรงข้ามล้มรัฐบาลและระบบเลือกตั้ง เราจะเคลื่อนไหวอย่างไร
เราจะชุมนุมอย่างไร เราจะส่งเสริมการหยุดงานทั่วประเทศอย่างไร ไม่ใช่มาพูด “โชว์ความแมน”
ด้วยคำพูดไร้สาระเรื่องการจับอาวุธหรือการแบ่งแยกประเทศ และไม่ใช่พูดแบบนามธรรมที่ไม่มีรายละเอียดอย่างที่แกนนำ
นปช. ทำอยู่ในปัจจุบัน
ทุกวันนี้พลเมืองไทยไม่ได้มีแค่สองทางเลือกระหว่างอำมาตย์กับเพื่อไทย
เราต้องกล้าเลือกแนวทางที่พัฒนาประชาธิปไตยไปถึงขั้นสูงกว่านี้
เราต้องปกป้องประชาธิปไตยที่เคยมี แต่ในขณะเดียวกันต้องผลักดันการปฏิรูป ที่ยกเลิกองค์กรอิสระ
ลงโทษอาชญากรของรัฐโดยเฉพาะทหาร และสร้างสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกอย่างแท้จริง
การถอยคนละก้าวเพื่อปรองดองกับพวกที่ไม่เคารพประชาธิปไตย
เป็นเพียงเส้นทางที่จะนำไปสู่การหดตัวของพื้นที่เสรีภาพ