ใจ อึ๊งภากรณ์
ในขณะที่พรรคฝ่ายซ้าย “ไซรีซา” ในกรีซ หักหลังประชาชนและยอมจำนนต่อกลุ่มทุนใหญ่ของสหภาพยุโรป โดยการยอมรับนโยบายเสรีนิยมรัดเข็มขัดสำหรับคนจนและกรรมาชีพ เราก็เห็นพรรค “โพเดมอส” (Podemos) ในสเปนขยับไปทางขวาภายในไม่กี่เดือนของการตั้งพรรค และล่าสุดก็ออกมาสนับสนุนจุดยืนแย่ๆ ของแกนนำ “ไซรีซา”
สาเหตุที่นักเคลื่อนไหวในไทยและรอบโลก ควรสนใจเรื่องราวเหล่านี้ ก็เพราะมันเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับประเด็นการสร้างพรรคสังคมนิยม ประเด็นเรื่องการลงสมัครรับเลือกตั้งในสภา และการเข้าใจว่ามีอุปสรรคอะไรบ้างในความฝันว่าจะปฏิรูประบบทุนนิยมได้
เราต้องย้อนกลับไปดูที่มาที่ไปของการพยายามทดลองสร้างพรรคซ้ายใหม่ในยุโรปและที่อื่นๆ ในยุคนี้ ความพยายามดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อพรรคกระแสหลักทางซ้าย คือพรรคสังคมนิยมสายปฏิรูป ไม่ว่าจะเป็น “พรรคสังคมนิยมประชาธิปไตย” หรือ “พรรคแรงงาน” ในทุกประเทศของยุโรป หันไปรับนโยบายเสรีนิยมกลไกตลาดและการรัดเข็มขัดที่ให้ประโยชน์กับกลุ่มทุน นอกจากนี้มีการหันหลังให้กับการปฏิรูประบบหรือการปกป้องรัฐสวัสดิการ เรื่องมันแหลมคมยิ่งขึ้นเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2008 และทุกรัฐบาลไม่ว่าจะมาจากซ้ายหรือขวา ก็ยอมรับนโยบายที่ทำลายมาตรฐานชีวิตของกรรมาชีพ เพื่อพยุงและเพิ่มกำไรของกลุ่มทุนและธนาคารต่างๆ ผลคือการเพิ่มอัตราว่างงาน และการตัดสวัสดิการ แต่ในขณะเดียวกันมีการเพิ่มรายได้และทรัพย์สินให้กับคนรวย นี่คือสาเหตุที่เกิด “สูญญากาศในการเมืองฝ่ายซ้าย”
ในขณะเดียวกันความไม่พอใจของชนชั้นกลางและนายทุนน้อยต่อสภาพเศรษฐกิจ ทำให้คะแนนนิยมพรรคกระแสหลักทางขวาลดลงด้วย ซึ่งเกิด “สูญญากาศในการเมืองฝ่ายขวา” ประกอบไปด้วย มันเป็นสภาพอันตรายเพราะพวกฟาสซิสต์เข้ามาฉวยโอกาสได้ง่ายขึ้น
ในสเปนวิกฤตเศรษฐกิจเกิดเมื่อฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์แตก ซึ่งในไม่ช้าอัตราว่างงานในหมู่คนหนุ่มสาวพุ่งขึ้นถึง 60% และงานที่มีให้ทำก็เป็นงานแย่ๆ ที่จ่ายค่าจ้างต่ำ ปรากฏการณ์แบบนี้นำไปสู่การลุกฮือยึดพื้นที่กลางเมืองใหญ่ๆ เพื่อคัดค้านการรัดเข็มขัดของรัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมและของพรรคสังคมนิยมที่เข้ามาเป็นรัฐบาลแทนที่ในภายหลัง
การยึดพื้นที่กลางเมืองของพวกคนหนุ่มสาว “อินดิกนาดอส” (Indignados) ซึ่งแปลว่า “พวกที่โกรธเคือง” เป็นปรากฏการณ์ที่สร้างความหวังให้กับคนที่อยากต้านแนวเสรีนิยม แต่ความคิดทางการเมืองที่อยู่เบื้องหลังขบวนการนี้จะเป็นแนวอนาธิปไตย คือคัดค้านพรรคการเมือง ปฏิเสธระบบ และเลือกใช้ประชาธิปไตยทางตรงของรากหญ้าผ่านการมีส่วนร่วมในจตุรัสต่างๆ หรือพื้นที่กลางเมือง อย่างไรก็ตามการมีส่วนร่วมแบบนี้ยากลำบากสำหรับคนที่ต้องไปทำงานทุกวัน
อย่างไรก็ตามเนื่องจาก “อินดิกนาดอส” เป็นขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมที่ไร้การจัดตั้งในรูปแบบพรรค มันย่อมมีขาขึ้นและขาลงเป็นปกติ ต่อจากนั้นนักเคลื่อนไหวที่เป็นอดีต “อินดิกนาดอส” ก็เข้าไปต่อสู้ในสหภาพแรงงาน ขบวนการปกป้องรัฐสวัสดิการ และขบวนการที่คัดค้านการที่คนธรรมดาถูกธนาคารยึดบ้านเพราะติดหนี้
ในปลายปี 2014 กลุ่มนักวิชาการที่นำโดย พาบโล อิกเลซีอัส (Pablo Iglesias) ได้ตัดสินใจก่อตั้งพรรค “โพเดมอส” โดยอาศัยสมาชิกคนหนุ่มสาวที่เคยร่วมในขบวนการ “อินดิกนาดอส” มีการเรียนบทเรียนสำคัญจากการลุกฮือแบบกระจัดกระจายตามแนวอนาธิปไตยว่ามันไม่มีเสถียรภาพในการต่อสู้ เขาจึงร่วมกันสรุปว่า “ขบวนการต้องมีพรรค” ต่อมาในการเลือกตั้งยุโรปและเลือกตั้งท้องถิ่นของสเปน พรรคนี้ได้สส.ในสภายุโรปกับผู้แทนในสภาท้องถิ่นมาหลายคน
ถึงแม้ว่าการตั้งพรรคใหม่นี้เป็นพัฒนาการทางการเมืองที่ดี แต่มันมีปัญหาที่ตามมาเนื่องจากการปฏิเสธแนวสังคมนิยมมาร์คซิสต์ แกนนำของพรรค “โพเดมอส” มองว่าเขา “ก้าวพ้นการแบ่งแยกระหว่างซ้ายกับขวา” ไปแล้ว ซึ่งในรูปธรรมแนวความคิดโพสธ์โมเดอร์นอันนี้แปลว่าพรรคพยายามปกปิดความขัดแย้งทางชนชั้นระหว่างนายทุนกับกรรมาชีพ ที่กำลังเพิ่มขึ้นทุกวันท่ามกลางวิกฤตและนโยบายรัดเข็มขัด คำว่า “ฝ่ายซ้าย” หมายถึงกลุ่มคนที่ยืนเคียงข้างกรรมาชีพและคนจน และคำว่า “ฝ่ายขวา” หมายถึงกลุ่มคนที่ยึดนโยบายที่เป็นประโยชน์กับกลุ่มทุนและคนรวย สรุปแล้วพรรค “โพเดมอส” มีจุดยืนที่ไม่ชัดเจนว่าสนับสนุนผลประโยชน์กรรมาชีพกับคนจน หรือสนับสนุนกลุ่มทุนและคนรวย คือพรรคพยายามเอาใจคนชั้นกลางและกรรมาชีพคนจนพร้อมกัน แต่ไม่สนใจนำการต่อสู้ของกรรมาชีพในรูปธรรมเลย และมีการดึงนักธุรกิจมาร่วมอีกด้วย
อีกปัญหาหนึ่งของพรรค “โพเดมอส” คือการขาดประชาธิปไตยภายในในรูปธรรม เพราะในนามธรรมพรรคประกาศว่าอาศัยประชาธิปไตยทางตรง แต่เวลาลงคะแนนเสียงอาศัยการกดรับหรือไม่รับผ่านอินเตอร์เน็ดและโซเชียล์มีเดีย ผลในรูปธรรมคือไม่มีความชัดเจนว่าใครเป็นสมาชิกพรรค และคนชื่อดังที่สามารถออกความเห็นในสื่อต่างๆ ได้ดี มักจะได้ประโยชน์ มันเป็นการมีส่วนร่วมจอมปลอมที่ทำให้พรรคใช้นโยบายนำ “จากบนลงล่าง” มากขึ้น
สรุปแล้วภายในไม่กี่เดือนพรรค “โพเดมอส” มีการแปรธาตุไปเป็นพรรคซ้ายปฏิรูปที่ยอมรับเงื่อนไขของกลุ่มทุนมากขึ้น ถ้าเทียบกับ “ไซรีซา” แล้ว มันมีจุดยืนแย่กว่าตั้งแต่ต้น และขาดประวัติการจัดตั้งมายาวนานของ “ไซรีซา” อีกด้วย และเราก็เห็นว่า“ไซรีซา” ก็ยังหักหลังประชาชนและยอมจำนนต่อกลุ่มทุนใหญ่ในที่สุด
ทุกวันนี้พวกนักฉวยโอกาสทางการเมือง ที่อยากเข้าไปในรัฐสภา แห่กันเข้ามาในพรรค “โพเดมอส” มากขึ้น
ทั้ง “ไซรีซา” กับ “โพเดมอส” มีจุดร่วมคือ คลุมเครือว่าต้องการปฏิวัติหรือปฏิรูประบบทุนนิยม และคลุมเครือว่าเข้าไปในรัฐสภาเพื่ออะไร คือไม่ชัดเจนว่าหลงคิดว่ายึดอำนาจรัฐผ่านรัฐสภาได้ หรือเข้าไปในรัฐสภาเพื่อเปิดโปงความแย่ของระบบและนำการต่อสู้โดยขบวนการแรงงานและประชาชนนอกรัฐสภาแทน
ดังนั้นการสร้างพรรคฝ่ายซ้านต้านทุนนิยม ที่อิสระจากพวกปฏิรูปเหล้านี้ และเน้นการเคลื่อนไหวนอกรัฐสภาเป็นเรื่องสำคัญ ในช่วงนี้นอกจากการนำการต่อสู้แล้ว ภาระสำคัญของพรรคซ้านต้านทุนนิยมในกรีซและสเปน จะต้องเป็นการดึงนักเคลื่อนไหวดีๆ ของ “ไซรีซา” กับ “โพเดมอส” ที่ผิดหวังและโกรธแค้นแกนนำ มาเป็นแนวร่วม
ในช่วงหลังนี้ที่สเปน มีการตั้งพรรค “คิวดาเดนอส” (Ciudadanos) หรือ “พรรคพลเมือง” เพื่อเป็น “พรรคใหม่ทางเลือก” ของฝ่ายขวา มีการดึงคะแนนของคนชั้นกลางและแข่งกับ “โพเดมอส” โดยเน้นเรื่องการต้านการคอร์รับชั่นในระบบการเมืองกระแสหลักเป็นนโยบายสำคัญ พรรคนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีเงิน และความไม่ชัดเจนทางการเมืองของ “โพดามอส” ทำให้ “โพดามอส” เสียคะแนนนิยมไป 10-15% ของคนชั้นกลางที่เคยสนับสนุนพรรค
บทเรียนสำคัญสำหรับเราจากสเปนและกรีซคือ
- การเคลื่อนไหวแบบกระจัดกระจายตามแนวอนาธิปไตยไม่มีความมั่นคงในการต่อสู้ระยะยาว ซึ่งเราก็เห็นในกรณีการต้านเผด็จการในไทยด้วย คือต้องมีการจัดตั้งสร้างพรรค
- การมีพรรคที่เน้นแต่การชนะการเลือกตั้งในรัฐสภา และคลุมเครือเรื่องปัญหาของระบบทุนนิยม และประเด็นชนชั้นมันไม่พอ ต้องมีการเชื่อมโยงกับการต่อสู้ของขบวนการแรงงานและกลุ่มอื่นๆ นอกรัฐสภาเสมอ และต้องไม่พยายามเอาใจคนชั้นกลางที่ไม่เคยสนับสนุนผลประโยชน์ของกรรมาชีพหรือคนจน และไม่เคยสนับสนุนประชาธิปไตยและการสร้างสังคมที่เท่าเทียมอย่างแท้จริง