ใจ อึ๊งภากรณ์
ท่ามกลางข่าวอื้อฉาวว่านายตำรวจ นายทหาร และบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอดีตเมียเจ้าฟ้าชาย เอี่ยวกับคดี ม.112 โดยที่ถูกกล่าวหาว่าแอบอ้างสถาบันกษัตริย์เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว เราควรพิจารณาภาพกว้างของการใช้กฏหมายเถื่อน112
สำหรับผู้ที่รักประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพ การที่ชนชั้นปกครองซีกหนึ่งกำลังล้างแค้นทำลายคู่แข่ง คนที่เป็นอุปสรรคกับการไต่เต้า หรือคนที่ตนเองรังเกียจนั้น ไม่มีความสำคัญและความน่าสนใจแต่อย่างใด
แต่เราเป็นห่วงนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยหลายๆ เพื่อนของเรา ที่ติดคุกอยู่ภายใต้กฏหมายเถื่อนนี้มากกว่า
ผู้เขียนไม่ได้หลงคิดว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็นพลังสำคัญในการสร้างเสรีภาพทั่วโลก ทั้งๆ ที่ทูตสหรัฐออกมาวิจารณ์การใช้ 112 แบบเบาๆ แต่การที่สลิ่มน้ำลายฟูมปาก แสดงความไม่พอใจกับคำพูดของเขา ก็เพียงแต่พิสูจน์ว่าพวกสลิ่มเหล่านี้เป็นพวก “ไทยยอมเป็นทาส” ที่พร้อมจะหมอบคลานก้มหัวกับเจ้านายตนเอง ซึ่งจริงๆ แล้วคือทหาร เพราะกษัตริย์ภูมิพลก็เป็นเพียงหุ่นของทหาร
พวกฝ่ายขวาอนุรักษ์นิยม โดยเฉพาะทหารที่เกลียดชังประชาธิปไตย มักจะพูดว่าไทย “จำเป็น” ที่จะมีกฏหมาย 112 เพื่อปกป้องสถาบันกษัตริย์ แต่คำถามใหญ่ที่เราควรถามคือ ทำไมเราต้องมีสถาบันปรสิตล้าหลังอันนี้ในยุคปัจจุบัน เพราะมันขัดกับหลักวิทยาศาสตร์และหลักความเท่าเทียมของมนุษย์ และเราต้องถามอีกว่าทำไมสถาบันสาธารณะแบบนี้ต้องมีกฏหมายห้ามไม่ให้พลเมืองวิพากษ์วิจารณ์ด้วย
การที่ชนชั้นนำไทยเกรงกลัวการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์โดยประชาชน หมายความว่ากษัตริย์ไม่ได้เป็นที่รักและเคารพของพลเมืองทุกคน มันสะท้อนว่าพวกนี้ขาดความมั่นใจในเรื่องอนาคต เขากังวลเรื่องอนาคตที่เขาจะโหนเกาะสถาบันกษัตริย์เพื่อให้ความชอบทำกับตนเองต่อไป โดยเฉพาะความชอบธรรมในการทำรัฐประหารหรือการทำลายประชาธิปไตย และเนื่องจากกษัตริย์ภูมิพลเป็นแค่หุ่นเชิดราคาแพงที่ทำตามคำสั่งของทหารและองค์มนตรี กฏหมาย 112 มีไว้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของคนที่โหนใช้หุ่นเชิดนี้เอง
ในภาพกว้างเราจะเห็นว่ากฏหมาย 112 ถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อวัตถุประสงค์สองอย่าง
วัตถุประสงค์แรกคือ เมื่อสมาชิกชนชั้นปกครองซีกหนึ่ง ผู้ที่ครองอำนาจในช่วงเวลาหนึ่ง ใช้ 112 เพื่อกล่าวหาคนที่เป็นอุปสรรคกับการพัฒนาอำนาจของตนเองหรือใช้กับคนที่วิจารณ์ตนเอง กรณีนายตำรวจ นายทหาร และบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอดีตเมียเจ้าฟ้าชาย เป็นตัวอย่างที่ดี ตัวอย่างอื่นในอดีตคือการขู่ใช้กฏหมายนี้เพื่อปิดปากนักข่าวต่างประเทศในสมัยทักษิณ
วัตถุประสงค์ที่สองสำคัญกว่า คือกฏหมาย 112 ถูกใช้เพื่อปราบปรามนักประชาธิปไตยที่เป็น “ฝ่ายซ้าย” ผมใช้คำว่า “ฝ่ายซ้าย” แบบหลวมๆ เพื่อหมายถึงคนที่รักความเป็นธรรม รังเกียจความเหลื่อมล้ำ และต้องการเห็นสังคมที่พลเมืองทุกคนมีความเสมอภาคทางเศรษฐกิจ
ในยุค ๖ ตุลา ยุคหลังรัฐประหาร ๑๙ กันยา และในยุคมืดหลังรัฐประหารของประยุทธ์ คนที่โดนกฏหมาย 112 และที่เป็นนักโทษการเมืองปัจจุบัน ย่อมจะเป็นนักเคลื่อนไหวฝ่ายซ้าย ดังนั้นวัตถุประสงค์ของการใช้ 112 แบบนี้คือใช้ในการปราบปรามกระแสสังคมนิยมหรือความพยายามที่จะสร้างสังคมที่เท่าเทียม
แต่เมื่อเราพิจารณาต่อไป เราจะเห็นว่ามีสองกรณีใหญ่ของคนที่ “แอบอ้างสถานบันกษัตริย์เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว” ที่ไม่เคยโดนคดี 112 เลย
กลุ่มแรกคือทหารเผด็จการตั้งแต่ยุคสฤษดิ์ถึงยุคประยุทธ์มือเปื้อนเลือด พวกอันธพาลเหล่านี้แอบอ้างว่าตนเองปกป้องกษัตริย์หรือ “ทำตามคำสั่ง” ของกษัตริย์ เพื่อยึดอำนาจ ขโมยประชาธิปไตย แล้วกอบโกยผลประโยชน์ให้กับตนเองและพรรคพวกเพื่อนฝูง
กลุ่มที่สองคือพวกชนชั้นกลางเสื้อเหลืองหรือสลิ่ม ที่แอบอ้างว่าตนเอง “สู้เพื่อในหลวง” แต่จริงๆ แล้วสู้เพื่อทำลายประชาธิปไตยของคนส่วนใหญ่ และปกป้องสถานภาพทางสังคมและอภิสิทธิ์พิเศษของเขาเองเสมอ
มันชี้ให้เห็นว่ามีการเลือกปฏิบัติในการใช้กฏหมาย 112 ตลอด
กฏหมายเถื่อนนี้แก้ไขให้ดีขึ้นไม่ได้ มันต้องยกเลิกอย่างเดียว แล้วต้องปล่อยนักโทษการเมืองทุกคน แต่ท้ายสุดแล้ว เราควรเปลี่ยนประเทศของเราให้เป็นสาธารณรัฐ