ใจ อึ๊งภากรณ์
การเลือกตั้งของอังกฤษที่จะจัดขึ้นในวันที่ 8 มิถุนายน เป็นครั้งแรกในรอบสี่สิบกว่าปีที่ประชาชนมีทางเลือกอย่างแท้จริงระหว่างนโยบายที่เอื้อประโยชน์กับกลุ่มทุน และนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้กับคนส่วนใหญ่ที่เป็นกรรมาชีพผู้ทำงาน
ในอดีตที่ผ่านมา โดยเฉพาะภายใต้ โทนี่ แบลร์ พรรคแรงงานที่เป็นพรรคของสหภาพแรงงานอังกฤษ มีนโยบายที่คล้ายคลึงกับพรรคอนุรักษณ์นิยมของนายทุน จนดูไม่ออกว่าแตกต่างกันอย่างไร รัฐบาลของ โทนี่ แบลร์ เน้นนโยบายเสรีนิยมกลไกตลาดสุดขั้วบวกกับการทำสงครามร่วมกับสหรัฐอเมริกา เขาพยายามหลีกเลี่ยงการพูดถึงกรรมาชีพและเรียกพรรคแรงงานว่า “พรรคแรงงานใหม่” หลังจากที่แบลร์ลาออก รัฐบาลพรรคแรงงานในยุควิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2008 ใช้นโยบายรัดเข็มขัดที่ทำลายฐานะทางเศรษฐกิจของคนส่วนใหญ่ เพื่อเอาใจกลุ่มทุนและนายธนาคาร นโยบายดังกล่าวสร้างความไม่พอใจ และปูทางไปสู่ชัยชนะของพรรคอนุรักษ์นิยมสองรอบ รัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมก็ใช้นโยบายรัดเข็มขัดสุดขั้วและค่อยๆ ทำลายระบบสวัสดิการและสาธารณสุขของประเทศเพื่อเพิ่มกำไรสำหรับกลุ่มทุนใหญ่ โดยที่พรรคแรงงานมือไม้อ่อนในการคัดค้าน เพราะผู้นำพรรคตอนนั้นไม่ค่อยเห็นต่างจากรัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยม
ต่อมาเมื่อปี 2015 เจเรมี คอร์บิน สส.ฝ่ายซ้ายชนะการเลือกตั้งภายในพรรคแรงงาน และขึ้นมาเป็นผู้นำใหม่ ตั้งแต่แรก คอร์บิน ใช้นโยบายและวิธีการใหม่ทางการเมือง คือปฏิเสธนโยบายเสรีนิยมกลไกตลาด และปฏิเสธพฤติกรรมของพวกนักการเมืองกระแสหลัก เขาเป็นตัวอย่างของนักการเมืองรากหญ้าที่อยู่เคียงข้างคนธรรมดา ในรัฐสภา คอร์บิน ใช้คำถามที่ประชาชนธรรมดาเขียนมา เพื่อจี้นายกรัฐมนตรี วิถีชีวิตของ คอร์บิน ขึ้นชื่อว่าเรียบง่าย และท่าทีของเขาสุภาพเสมอ
การที่สมาชิกธรรมดาของพรรคแรงงานเทคะแนนให้ คอร์บิน แสดงให้เห็นว่าอังกฤษไม่ต่างจากประเทศอื่นในยุโรปที่ประชาชนส่วนหนึ่งเบื่อหน่ายเต็มที่กับนโยบายฝ่ายขวาที่ทำลายความมั่นคงของประชาชน กระแสแบบนี้เกิดขึ้นใน กรีซ ไอร์แลนด์ และแม้แต่ในฝรั่งเศสซึ่งดูได้จากคะแนนเสียงที่ จอนลุค เมลองชง ได้รับในการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรก กระแสซ้ายแบบนี้สำคัญ เพราะสามารถคานการฉวยโอกาสจากวิกฤตเศรษฐกิจของพวกฟาสซิสต์ขวาจัด ที่พยายามสร้างกระแสเกลียดชังคนต่างชาติ
อย่างไรก็ตามพวกสส.เก่าภายในพรรคแรงงานหลายคน เป็นพวกฝ่ายขวาที่พยายามโค่น คอร์บินตลอดเวลา และไม่สนใจว่าสมาชิกพรรคส่วนใหญ่จะคิดอย่างไร พวกนี้พร้อมจะเปิดการต่อสู้ภายในพรรค ไม่ว่าจะมีผลกระทบต่อการเลือกตั้งอย่างไร
สำหรับการเลือกตั้งในวันที่ 8 มิถุนายน นโยบายของพรรคแรงงานเป็นนโยบายที่ก้าวหน้าและซ้ายที่สุดในรอบสี่สิบกว่าปี คอร์บิน ประกาศว่าพรรคแรงงานเป็นพรรคที่เข้าข้างผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่พรรคที่จะเอื้อประโยชน์กับคนส่วนน้อยที่เป็นเศรษฐีนายทุน พรรคแรงงานประกาศว่าจะยกเลิกค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัย จัดอาหารกลางวันฟรีให้เด็กในโรงเรียน ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอย่างจริงจัง นำสาธารณูปโภคสำคัญๆ กลับมาเป็นของรัฐ เพิ่มงบประมาณให้กับระบบสาธารณสุข เพิ่มสิทธิเสรีภาพให้สหภาพแรงงาน สร้างที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นให้คนธรรมดา ต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติสีผิว และแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำเรื้อรังในสังคม ที่สำคัญคืองบประมาณที่จะใช้ในเรื่องเหล่านี้จะมาจากการเก็บภาษีรายได้เพิ่มขึ้นจากคนรวยและเศรษฐี นับว่าเป็นนโยบายที่ให้ความหวังกับคนธรรมดาที่หมดหวังและถูกกดทับจากนโยบายรัดเข็มขัดมานาน
หลังจากที่มีระเบิดพลีชีพที่เมืองแมนเชสเตอร์ คอร์บิน ปราศัยว่าถ้าประชาชนจะปลอดภัยจากการก่อการร้าย นโยบายต่างประเทศของอังกฤษจะต้องเปลี่ยนไป ต้องเลิกก่อสงครามเพื่อผลประโยชน์ โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง เพราะสงครามเหล่านี้นอกจากจะผิดศีลธรรมแล้ว ยังชักศึกเข้าบ้านอีกด้วย คอร์บิน มีประวัติการต้านสงครามมานานตลอดยุคของรัฐบาล โทนี่ แบลร์ และภายใต้รัฐบาลอนุรักษ์นิยม

สหายไทยบางคนที่ไปร่วมงานสมัชชาสังคมโลกที่อินเดียในปี 2004 อาจเห็น คอร์บินปราศัยในงานนั้น
วิธีการหาเสียงของคอร์บินแตกต่างจากการหาเสียงของผู้นำแบบ โทนี่ แบลร์ หรือผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมปัจจุบัน เพราะพวกนั้นมักจะเน้นการใช้สื่อโดยเฉพาะโทรทัศน์ แต่ คอร์บิน เน้นการปราศัยกลางแจ้งหรือในหอประชุมใหญ่ตามเมืองต่างๆ เพื่อพบประชาชนต่อหน้าต่อตา และปลุกระดมกระแสความหวังใหม่ บ่อยครั้งการปราศัยดังกล่าวจะมีคนมาฟังเป็นพันๆ คน และเต็มไปด้วยคนรุ่นใหม่
ในขณะที่ทีมของ คอร์บิน เสนอนโยบายที่สร้างความหวัง พรรคอนุรักษ์นิยมของ เทเรซา เมย์ เสนอแต่นโยบายที่จะใช้การรัดเข็มขัดต่อไป มีการพูดว่าจะตัดอาหารฟรีที่เด็กยากจนในโรงเรียนได้รับ มีการโจมตีฐานะทางเศรษฐกิจของคนชรา และมีการกลับลำเวลาประชาชนไม่พอใจกับนโยบายดังกล่าว การหาเสียงของพรรคอนุรักษ์นิยมไร้ระบบและไร้ประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง แต่สื่อกระแสหลักทุกแห่ง รวมถึงบีบีซี และหนังสือพิมพ์การ์เดียน ก็คอยสนับสนุน เมย์ ด้วยการโจมตี คอร์บิน อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าชนชั้นปกครองอังกฤษกลัวการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์กับประชาชนส่วนใหญ่
ล่าสุด เทเรซา เมย์ ไม่กล้าออกมาโต้ดีเบดสดสองต่อสองผ่านโทรทัศน์กับ คอร์บิน แต่คอร์บิน มองว่าถ้าออกโทรทัศน์สดบ่อยๆ ประชาชนจะเห็นธาตุแท้ของเขาได้ แทนที่จะฟังหรืออ่านความเห็นเกี่ยวกับเขาผ่านสื่อฝ่ายขวา นี่คือสาเหตุหนึ่งที่คะแนนนิยมในพรรคแรงงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้โพลทางการเมืองแสดงให้เห็นว่าพรรคแรงงานเริ่มเพิ่มคะแนนนิยมจากเดิมที่ตกต่ำมาในการเลือกตั้งสองรอบที่แล้วมา เพราะเมื่อมีการเปิดการหาเสียงรอบนี้พรรคอนุรักษ์นิยมนำพรรคแรงงาน 19% แต่ตอนนี้นำแค่ 3% เอง บางโพลถึงกับเสนอว่าพรรคแรงงานนำ 1% และคะแนนนิยมในคอร์บินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่คะแนนนิยมใน เมย์ ลดลง นับว่าเป็นผลงานที่น่าทึ่งสำหรับทีมฝ่ายซ้ายของ คอร์บิน และถ้าคอร์บินไม่ชนะการเลือกตั้งในที่สุด ยังต้องถือว่าเป็นเครื่องวัดกระแสฝ่ายซ้ายในสังคมที่ต้านนโยบายเสรีนิยมกลไกตลาด
ในหมู่คนหนุ่มสาวคะแนนนิยมในพรรคแรงงานพุ่งสูงถึง 68% ในขณะที่พรรคอนุรักษ์นิยมได้แค่ 16%
อย่างไรก็ตามเราต้องระมัดระวังที่จะทำนายว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากโพล สิ่งที่เป็นไปได้สูงคือจำนวนสส.ของแต่ละพรรคอาจไม่พอที่จะตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้
เราคงต้องรอวันเลือกตั้งเพื่อดูว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร ถ้าคอร์บินชนะ ซึ่งยังไม่มีหลักประกันอะไรว่าจะได้เสียงข้างมาก รัฐบาลของเขาจะต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มทุนใหญ่และสื่อกระแสหลัก ที่จะพยายามทุกอย่างเพื่อทำลายความหวังของประชาชนที่เลือกพรรคแรงงาน เพราะแม้แต่ในระบบประชาธิปไตยทุนนิยมของอังกฤษ กลุ่มทุนและชนชั้นปกครองมักจะมีอำนาจมากกว่าพลเมืองธรรมดา และพร้อมจะขัดขวางเสียงของประชาชนเสมอ วิธีที่จะเพิ่มอำนาจของประชาชนธรรมดาคือต้องเพิ่มความเข้มแข็งของขบวนการแรงงาน และขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมในการหนุน คอร์บิน
ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร ต้องมีการต่อสู้ทั้งในและนอกรัฐสภา เพื่อสนับสนุนผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่
9 มิถุนายน 2017 เพิ่มเติม……
ผลการเลือกตั้งอังกฤษ
พรรคอนุรักษ์นิยมของ เทเรซา เมย์ เสียคะแนนเสียงและไม่สามารถได้ที่นั่งข้างมากในรัฐสภาอย่างที่เคยมี นับว่าเป็นความพ่ายแพ้ของ เมย์ และพรรคอนุรักษ์นิยม ทั้งๆ ที่พรรคได้ที่นั่งมากที่สุด เราต้องไม่ลืมว่าเมย์ยุบสภาครั้งนี้เพื่อหวังเพิ่มคะแนนและที่นั่งเพื่อเจรจากับอียู
สงครามภายในพรรคอนุรักษ์นิยมจะทำให้ เทเรซา เมย์ อยู่ไม่ได้นาน และคงต้องมีการเลือกตั้งอีกครั้งก่อนสิ้นปี
ทั้งๆ ที่พรรคแรงงานได้ที่นั่งน้อยกว่าพรรคอนุรักษ์นิยม เจเรมี คอร์บิน และนโยบายที่ก้าวหน้าและเน้นการเมืองฝ่ายซ้ายของพรรคแรงงาน สามารถครองใจประชาชน 12.8 ล้าน หรือ 40% ของผู้ออกมาใช้เสียง และที่น่าทึ่งคือคนหนุ่มสาวออกมาเทคะแนนให้พรรคอย่างถล่มทลาย
คะแนนเสียงของพรรคแรงงานพิสูจน์ว่าการเมืองฝ่ายซ้ายสามารถครองใจประชาชนจำนวนมาก มันพิสูจน์ว่าประชาชนจำนวนมากต้องการทางเลือกที่ไม่ใช่การเมืองฝ่ายขวาของพวกเสรีนิยมกลไกตลาด เพราะการเมืองแบบนี้ทำลายชีวิตของคนธรรมดาจำนวนมากผ่านการรัดเข็มขัด มันพิสูจน์ว่าการเสนอทางเลือกซ้ายเป็นคำตอบในรูปธรรมเพื่อขจัดกระแสฟาสซิสต์ทั่วโลก มันพิสูจน์ว่าคนที่ประกาศว่า “ฝ่ายซ้ายหมดยุค” ไม่เข้าใจการเมืองในโลกจริง
เจเรมี คอร์บิน เพิ่มคะแนนเสียงให้พรรคแรงงานเหนือผลการเลือกตั้งปี 2015 2010 และ2005 ซึ่งเป็นยุคที่พรรคแรงงานเป็น “แรงงานใหม่” ที่เน้นนโยบายฝ่ายขวาตามนโยบายของ โทนี่ แบลร์