คัดค้านโทษประหาร

คัดค้านโทษประหาร

ใจ อึ๊งภากรณ์

 

มันเป็นเรื่องน่าอับอายขายหน้าและเลวร้ายที่เผด็จการทหารไทยนำโทษประหารกลับมาใช้หลังจากที่ไม่ได้ใช้มา 9 ปี มันบ่งบอกถึงความป่าเถื่อนล้าหลังของรัฐบาลปัจจุบัน ในแง่หนึ่งมันทำให้รัฐไทยป่าเถื่อนเท่ากับชายที่ใช้ความรุนแรงฆ่าคนเพื่อปล้นทรัพย์

 

เราควรคัดค้านโทษประหาร เพราะมันเป็นแค่การฆ่าประชาชนอีกคนหนึ่งเพื่อสำเร็จความใคร่และการแก้แค้นของสังคม มันเป็นการใช้ความป่าเถื่อนตอบโต้ความป่าเถื่อน แต่การแก้แค้นแบบนั้นเป็นความคิดล้าหลังต่ำช้าที่สุด ซึ่งชนชั้นปกครองพยายามป้อนให้เราเชื่อเสมอ การแก้แค้นไม่นำไปสู่การคืนชีพของผู้ถูกฆ่า ไม่ได้แก้ปัญหาการข่มขืนหรือดูแลรักษาจิตใจของเหยื่อ โทษประหารไม่นำไปสู่การลดอาชญากรรมแต่อย่างใด และบ่อยครั้งผู้ถูกประหารเป็นคนบริสุทธิ์ที่ศาลพิพากษาผิดอีกด้วย เราก็ทราบดีว่าในกรณีรัชกาลที่ 8 มีการประหารชีวิตคนบริสุทธ์ และเราทราบดีว่าในยุคเผด็จการสฤษดิ์มีการประหารชีวิตคนที่กล้าคิดต่างเช่นนักเคลื่อนไหวสังคมนิยม

 

การใช้กฎหมายในการลงโทษพลเมืองที่ใช้ความรุนแรง ไม่ได้ทำให้อาชญากรรมลดลงแต่อย่างใด เพราะเป็นการพยายามแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหลังจากที่มีผู้กระทำความผิดไปแล้ว เราควรดูว่าสาเหตุของอาชญากรรมมาจากอะไร เราควรถามว่าทำไมเกิดการปล้นทรัพย์และฆ่าคนในสังคม เราควรเข้าใจว่าทำไมผู้ชายบางคนข่มขืนผู้หญิง และเราต้องเข้าใจว่าสภาพแวดล้อมของสังคมเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหา มันไม่ใช่เรื่อง “คนดี” กับ “คนชั่ว” แบบง่ายๆ เพราะไม่มีใครเกิดมาดี หรือเกิดมาชั่ว

 

ชนชั้นปกครองไทยและเผด็จการประยุทธ์ใช้อำนาจและความรุนแรงเป็นประจำ มีการปราบปราม ทำร้ายฆ่าประชาชน อย่างเช่นที่เราเห็นที่ราชประสงค์ ผ่านฟ้า ตากใบ หรือราชดำเนินในกรณีพฤษภา๓๕ ฯลฯ  แต่ที่แย่ที่สุดคือ ชนชั้นปกครองกลับอ้างความชอบธรรมในการก่ออาชญากรรมดังกล่าว โดยใช้กระบวนการของกฎหมาย ดังนั้นผู้ที่ไม่ได้กระทำความผิดกลายเป็นผู้ผิดไปในสังคมใต้กะลา

 

162848_120879737979007_100001709430671_124293_6441625_n

 

เราควรคัดค้านโทษประหาร ซึ่งเป็นการใช้ความป่าเถื่อนแบบ “ตาต่อตา” เพราะในโลกที่อาศัยหลัก “ตาต่อตา” คนส่วนใหญ่ในสังคมจะ “ตาบอด” ถึงหลักความยุติธรรม และต้นเหตุของปัญหาต่างๆ

 

32261_399319099924_537184924_3928134_4527140_n

 

ภายใต้ระบอบเผด็จการของ “ประยุทธ์มือเปื้อนเลือด” อาชญากรตัวร้ายสุดคือเจ้าหน้าที่รัฐและตัวประยุทธ์เอง