อำนาจของเผด็จการประยุทธ์ไม่ได้มาจากวชิราลงกรณ์แต่อย่างใด คนที่เพ้อฝันคิดแบบนั้นเป็นคนที่ไม่ศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองไทย และไม่เข้าใจธาตุแท้ของกษัตริย์ไทย ความคิดแบบนี้จะปล่อยให้ทหารลอยนวล และไม่นำไปสู่การสู้กับเผด็จการตรงจุด
อำนาจของเผด็จการประยุทธ์มาจาก
1. การคุมกองกำลังทหารที่สามารถทำรัฐประหารได้
2. ฐานสนับสนุนเผด็จการประยุทธ์ในหมู่สลิ่มชนชั้นกลาง
การคุมกองกำลังทหารที่สามารถทำรัฐประหารได้
การคุมกองกำลังทหารเป็นการคุมอำนาจทางการเมืองที่สำคัญในประเทศไทย ซึ่งทำให้มีการทำรัฐประหารล้มรัฐบาลหลายๆ ครั้ง ที่สำคัญสำหรับบทความนี้คือ บ่อยครั้งมีความขัดแย้งกันภายในกองทัพ เพื่อแย่งชิงอำนาจนี้ ซึ่งคงไม่เกิดถ้ากษัตริย์คุมกองทัพอย่างเบ็ดเสร็จ และที่สำคัญอีกคือมีกรณีที่มีการทำรัฐประหารที่สำเร็จและนำไปสู่การล้มรัฐบาลที่กษัตริย์เคยสนับสนุน ตัวอย่างคือการทำรัฐประหารล้มรัฐบาล “หอย” ของนายธานินทร์ กรัยวิเชียร ที่ภูมิพลเคยชื่นชม เพียงหนึ่งปีหลังเหตุการณ์นองเลือด ๖ ตุลา ๒๕๑๙
ฐานสนับสนุนเผด็จการประยุทธ์ในหมู่สลิ่มชนชั้นกลาง
ก่อนหน้าที่ประยุทธ์จะทำรัฐประหารล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 มีมวลชนของพวกสลิ่มออกมาประท้วงต่อต้านรัฐบาลบนท้องถนนมากมาย มวลชนฝ่ายขวาเหล่านี้ไม่สนับสนุนระบบประชาธิปไตย เกลียดทักษิณเพราะทักษิณทำแนวร่วมกับคนจนเพื่อสร้างฐานเสียงให้ตัวเอง และไม่พอใจการ “นิรโทษกรรมเหมาเข่ง” ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ช่วงนี้เป็นช่วงที่กษัตริย์รัชกาลที่ 9 ป่วยหนักและหมดสภาพที่จะทำอะไร และวชิราลงกรณ์ก็มัวแต่เสพสุขที่เยอรมัน
การทำรัฐประหาร 19 กันยา 2549 ที่สามารถล้มรัฐบาลทักษิณ เกิดขึ้นหลังจากที่พวกเสื้อเหลืองและกลุ่มพันธมิตรกึ่งฟาสซิสต์ทำการประท้วงต่อต้านรัฐบาลทักษิณอย่างต่อเนื่องหลายเดือน และพวกเหลืองเหล่านี้ยังได้รับการสนับสนุนจากพวกเอ็นจีโออีกด้วย การทำรัฐประหารครั้งนี้ทำไม่ได้ถ้าไม่มีกระแสปฏิกิริยาของฝ่ายเหลืองในสังคม และย่อมทำไม่ได้ถ้าตอนนั้นทักษิณเตรียมตัวจัดมวลชนเพื่อต้านรัฐประหาร ซึ่งเขาไม่มีวันทำ
หลังจากที่เผด็จการประยุทธ์ครองอำนาจมา 5 ปี มีการจัดการเลือกตั้งปลอมในปี 2562 ภายใต้กติกาที่ทหารร่างขึ้น ประเด็นสำคัญคือ 1. ทำไมต้องจัดการเลือกตั้งถ้าวชิราลงกรณ์ครองอำนาจเบ็ดเสร็จ? แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ 2. มีประชาชนไทยหลายล้านคน เกือบครึ่งหนึ่งของประเทศที่ลงคะแนนสนับสนุนพรรคของประยุทธ์และพรรคร่วมรัฐบาลของเขา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอำนาจจากฐานเสียงในสังคมที่เผด็จการประยุทธ์ใช้เพื่อครองอำนาจ มันไม่เกี่ยวอะไรเลยกับกษัตริย์
พอมาถึงช่วงนี้ วิกฤตโควิดและความไม่พอใจอื่นๆ ที่สะสมในสังคม เริ่มทำลายฐานสนับสนุนของประยุทธ์ ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสเหมาะที่จะเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลบนท้องถนน
การทำความเข้าใจกับกระแสสังคม ฐานเสียงในกลุ่มและชนชั้นต่างๆ ของสังคม
ลัทธิคลั่ง “ชาติ ศาสนา กษัตริย์” มีความสำคัญสำหรับทหารและชนชั้นนายทุนไทย ในการกล่อมเกลาประชาชนให้สนับสนุนสิ่งที่ชนชั้นปกครองเหล่านี้กระทำ แต่มันต่างโดยสิ้นเชิงกับ “อำนาจกษัตริย์” ซึ่งเป็นภาพลวงตา
การทำความเข้าใจกับกระแสสังคม ฐานเสียงในกลุ่มและชนชั้นต่างๆ ของสังคม เป็นเรื่องสำคัญถ้าเราจะล้มเผด็จการได้ ที่สำคัญคือต้องมีการปลุกระดมกรรมาชีพคนทำงาน คือคนที่มีพลังทางเศรษฐกิจ ให้นัดหยุดงานเพื่อล้มเผด็จการ และสิ่งนี้เกิดได้ง่ายขึ้นถ้ามีการสร้างพรรคสังคมนิยม (ไม่ใช่สร้าง “สหภาพคนทำงาน”)
การทำความเข้าใจกับกระแสสังคม ฐานเสียงในกลุ่มและชนชั้นต่างๆ ของสังคม จะช่วยกำจัดการถูกครอบงำโดย “ทฤษฎีสมคบคิด” เกี่ยวกับอำนาจกษัตริย์
ใจ อึ๊งภากรณ์
อ่านเพิ่ม
สภาวะแปลกแยก กับการสร้างภาพลวงตาเกี่ยวกับอำนาจกษัตริย์ https://bit.ly/3B3mwOk
นักเคลื่อนไหวควรปฏิเสธการถูกครอบงำโดย “ทฤษฎีสมคบคิด” https://bit.ly/385NoRk
ความสำคัญของชนชั้นกรรมาชีพ https://bit.ly/2JBhqDU
ข้อเสนอสำหรับการต่อสู้ http://bit.ly/2Y37gQ5
ทำไมนักมาร์คซิสต์ต้องสร้างพรรค? http://bit.ly/365296t
สหภาพแรงงานใช้แทนพรรคไม่ได้ https://bit.ly/2V2LBcJ