อนาคตของอัฟกานิสถานหลังตาลิบันชนะตะวันตก

ไม่มีใครสามารถทำนายด้วยความมั่นใจว่าอนาคตของอัฟกานิสถานหลังความพ่ายแพ้ของจักรวรรดินิยมตะวันตกจะเป็นอย่างไร แต่เราสามารถตั้งข้อสังเกตสำคัญๆ ได้ดังนี้

ตาลิบันสามารถครองใจประชาชนจำนวนมาก เพราะในพื้นที่ที่เขาคุมเขาใช้ระบบยุติธรรมที่เป็นธรรม ส่วนในพื้นที่ที่รัฐบาลหุ่นของสหรัฐคุม ระบบยุติธรรมเต็มไปด้วยการคอร์รับชันและการเล่นเส้นเล่นสาย จนพูดได้ว่าไม่มีความยุติธรรมเลย นอกจากนี้ประชาชนในชนบทเกลียดชังตะวันตกเพราะมีการทิ้งระเบิดทำลายชุมชนอย่างต่อเนื่อง

ตาลิบันยึดอำนาจได้ โดยไม่มีเหตุนองเลือดและไม่ต้องสู้รบ เพราะตาลิบันเจรจาทำข้อตกลงกับกลุ่มอำนาจในชุมชนและเมืองต่างๆ หลายฝ่าย และสัญญาว่าจะยุติสงคราม กลุ่มผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ยอมให้ตาลิบันยึดอำนาจเพราะมองไม่ออกว่าอดีตรัฐบาลจะชนะตาลิบันอย่างไร และทหารของรัฐบาลเก่าก็หมดกำลังใจที่จะสู้ต่อ แต่การทำสัญญากับหลายกลุ่มที่เคยอยู่ข้างสหรัฐและอังกฤษมีข้อเสีย เพราะพวกนั้นคงหวังผลประโยชน์เป็นการตอบแทน และเขาเป็นพวกที่มีประวัติการคอร์รับชันสูง ถ้าตาลิบันต้องปกครองร่วมกับพวกนี้ในที่สุดจะเสี่ยงกับการเสียฐานสนับสนุนจากคนธรรมดาในชนบท

ตาลิบันมีการดึงชาวอัฟกันหลายเชื้อชาติเข้ามาร่วมขบวนการ ซึ่งต่างจากสมัยก่อนที่เน้นกลุ่มเชื้อชาติเดียว ซึ่งทำให้ตาลิบันขยายฐานอำนาจได้ ในขณะเดียวกันพวกขุนศึกที่เคยคุมหลายพื้นที่ก็หมดอำนาจลงไป

อัฟกานิสถานเป็นประเทศยากจนที่มีความเหลื่อมล้ำในเรื่องที่ดินสูงมาก รัฐบาลต่างๆ ก่อนหน้านี้ไม่ได้ทำอะไรเลยเพื่อการปฏิรูปที่ดิน ในอนาคตถ้ารัฐบาลตาลิบันสามารถปฏิรูปที่ดินเพื่อให้คนจนในชนบทมีที่ดินของตนเองก็จะสามารถครองใจประชาชนจำนวนมาก แต่ถ้าตาลิบันต้องสร้างรัฐบาลที่ประกอบไปด้วยแนวร่วมจากกลุ่มที่เคยสนับสนุนสหรัฐ พวกนี้จะกีดกันการปฏิรูปที่ดินเพราะขัดกับผลประโยชน์ชนชั้นตนเอง ซึ่งถ้าตาลิบันล้มเหลวในการปฏิรูปที่ดินประชาชนในชนบทจะเริ่มไม่พอใจมากขึ้น

ในเรื่องสิทธิสตรี ซึ่งเป็นข้ออ้างเท็จของตะวันในการบุกและยึดครองอัฟกานิสถานเมื่อยี่สิบปีก่อน โฆษกตาลิบันออกมาพูดว่าอยากให้สตรีมีบทบาทในสังคมการเมือง แต่เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าตาลิบันเปลี่ยนความคิดจริงหรือแค่โกหก การกดขี่สตรีของตาลิบันมาจากลัทธิศาสนาสายอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นรากฐานการก่อตั้งขบวนการแต่แรก มันเป็นลัทธิที่มาควบคู่กับความคิดกู้ชาติจากรัสเซีย ตะวันตก และขุนศึกอัฟกัน

จักรวรรดินิยมตะวันตกไม่เคยสนใจสิทธิสตรีในรูปธรรมเลย เพราะทำแนวร่วมและขายอาวุธให้ประเทศที่กดขี่สตรีหนักๆ อย่างซาอุดิอาระเบีย และในสหรัฐเองสิทธิทำแท้งเสรีก็ถูกรัฐคุกคามอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ในรูปธรรมกองทัพของจักรววรดินิยมตะวันตกในอัฟกานิสถาน แสดงความสมานฉันท์กับสตรีอัฟกันในชนบทด้วยการทิ้งระเบิดหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งทำให้พลเรือนทั้งหญิงและชายล้มตายจำนวนมาก

สตรีในอัฟกานิสถานสามารถปลดแอกตนเอง ไม่ต่างจากสตรีที่อื่น แต่แน่นอนต้องใช้เวลา และต้องได้รับความสมานฉันท์จากชาย แต่สิ่งที่ชัดเจนคือไปหวังพึ่งจักรวรรดินิยมตะวันตกไม่ได้

ดูเหมือนตาลิบันอยากจะไปจับมือกับรัฐบาลจีน จีนต้องการเห็นความมั่นคงในอัฟกานิสถานและต้องการปกป้องการลงทุนในเรื่องพลังงานในภูมิภาคนี้ ถ้าตาลิบันผูกมิตรกับจีน ก็คงจะทำเพื่อหวังคานอำนาจตะวันตก แต่ทั้งจีน รัสเซีย สหรัฐและอังกฤษก็ล้วนแต่เป็นจักรวรรดินิยมทั้งนั้น จีนคงจะเรียกร้องให้ตาลิบันเลิกสนับสนุนชาวมุสลิมในจีนที่ถูกรัฐบาลกดขี่อีกด้วย เช่นชาวอุยกูร์

ขอย้ำอีกครั้งว่าชาวมาร์คซิสต์ไม่ได้สนับสนุนตาลิบันแต่อย่างใด เรามองว่าตาลิบันเป็นขบวนการอนุรักษ์นิยมฝ่ายขวา ซึ่งเกิดขึ้นจากการแทรกแซงของจักรวรรดินิยมตะวันตกและเคยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐในอดีต แต่เราดีใจที่จักรวรรดินิยมสหรัฐและอังกฤษแพ้สงครามในอัฟกานิสถาน เพราะเราคัดค้านสงครามจักรวรรดินิยมทุกรูปแบบ ชาวอัฟกันจะมีเสรีภาพได้เมื่อปลดแอกตนเอง ไม่ต่างจากในไทย คนไทยจะมีเสรีภาพได้ก็ต้องปลดแอกตนเองเช่นกัน

ใจ อึ๊งภากรณ์

อ่านเพิ่ม https://bit.ly/3B0k0bw