Tag Archives: การเมือง

ไวรัสโคโรน่าอู่ฮั่น (WN-CoV) กับท่าทีของนักสังคมนิยม

ใจ อึ๊งภากรณ์

ไวรัสโคโรน่าอู่ฮั่น (WN-CoV) เป็นไวรัสพันธุ์ใหม่ที่พึ่งเริ่มแพร่หลายระหว่างมนุษย์ เดิมมาจากสัตว์ป่าที่นำมาขายร่วมกับเนื้อสัตว์อื่นๆ ในตลาดสดที่เมืองอู่ฮั่นประเทศจีน ลักษณะของไวรัสใหม่นี้ การระบาด และความร้ายแรง ยังไม่ชัดเจน แต่เราไม่ควรจะกลัวเกินเหตุ ที่สำคัญคือควรเลือกอ่านสื่อที่ไว้ใจได้และมีคุณภาพ แทนที่จะตกใจกับข่าวปลอมในโซเชียล์มีเดีย

โคโรน่าไวรัสเกิดขึ้นตามธรรมชาติในสัตว์ และจะไม่ลามไปถึงมนุษย์ยกเว้นในกรณีพิเศษ เช่นเมื่อมีการแปรพันธุ์ในสัตว์ป่าแล้วถูกขายแบบผิดกฏหมายในตลาดสด นักวิทยาศาสตร์สงสัยว่าค้างคาวมีส่วนสำคัญในกรณีไวรัสชนิดนี้

nn_mal_coronavirus_spreads_to_US_200121_1920x1080.focal-760x428

ไข้หวัดซาร์ ( SARS – severe acute respiratory syndrome) และ ไข้หวัดเมอร์ส (MERS – Middle East respiratory syndrome ) ซึ่งเคยระบาดจนเป็นข่าว เป็นไข้หวัดที่เกิดจากไวรัสตระกูลโคโรน่าเช่นกัน

ไข้หวัดซาร์ แพร่สู่มนุษย์ผ่านแมวป่าที่ติดเชื้อจากค้างคาว และไวรัสเมอร์ส ตรวจพบครั้งแรกที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยเชื้อนี้มาจากค้างคาวแล้วติดอูฐ ก่อนแพร่ไปยังชายชาวซาอุฯ

นอกจากนี้โคโรน่าไวรัสพันธุ์อื่นในมนุษย์ทำให้เป็นหวัดธรรมดาที่ไม่ร้ายแรง

191217-hand-washing-stock-cs-906a_f4b26951f71188739ce7617acf4cb093.fit-760w

วิธีป้องกันการระบาดของไข้หวัดคือการรักษาความสะอาด ควรล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ ควรปิดปากเวลาไอหรือจาม และพยายามไม่เข้าใกล้ผู้ที่มีอาการป่วย การใส่หน้ากากจะช่วย

200122213126-coronavirus-fears-markets-02-exlarge-169

เนื่องจากไข้หวัดเกิดจากไวรัส การใช้ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) ไม่มีประโยชน์ในการฆ่าเชื้อไวรัส สิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุดในการฆ่าไวรัสคือระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเราตามธรรมชาติ และการกินยาลดไข้ธรรมดา อย่างไรก็ตามถ้าเป็นไข้หวัดแล้วเกิดโรคแทรกเช่นปอดอักเสบ ที่มาจากเชื้อบักเตรี ยาปฏิชีวนะจะมีประโยชน์ นอกจากนี้ถ้าใครมีอาการหนักในแง่ของการหายใจด้วยความยากลำบาก และคนที่มีร่างกายอ่อนแอ หรือเป็นคนอายุสูง จะต้องเข้าโรงพยาบาล เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือในการหายใจ

tdy_sat_jmf_coronavirus_200125_1920x1080.focal-760x428

คนที่มีอาการไม่ร้ายแรง ควรหลีกเลี่ยงการไปหาหมอหรือเข้าโรงพยาบาลถ้าเป็นไปได้ เพราะจะทำให้วิกฤตโรคระบาดร้ายแรงขึ้นในชุมชน และถ้าป่วยไม่ควรใช้ระบบขนส่งมวลชน

ท่าทีของนักสังคมนิยมต่อปัญหาไข้หวัด

  1. เราควรเรียกร้องให้รัฐบาลประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าอู่ฮั่น ข้อมูลต้องมีมาตรฐานวิทยาศาสตร์และเข้าใจง่าย เพื่อให้คนป้องกันตัวได้ นอกจากนี้รัฐบาลควรเปิดศูนย์รับสายโทรศัพท์พิเศษ เพื่อให้ประชาชนปรึกษาเจ้าหน้าที่อนามัยได้Mental-health-helpline
  2. เราไม่ควรมองนักท่องเที่ยวจีนด้วยอคติ หรือการเหยียดเชื้อชาติ
  3. เราควรเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาอธิบายว่าได้เตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับไข้หวัดอย่างไร เช่นรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการในโรงพยาบาลต่างๆ อุปกรณ์สำหรับตรวจพันธุ์ไวรัส อุปกรณ์สำหรับการป้องกันเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล อุปกรณ์สำหรับการรักษาคนไข้และห้องพิเศษตามที่ต่างๆ โครงการการอบรมเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์เพื่อให้ประชาชนป้องกันตนเอง เช่นหน้ากากและสิ่งจำเป็นสำหรับการล้างมือ
  4. ถ้ามีวิกฤตการระบาดของไข้หวัด รัฐบาลควรออกประกาศให้โรงพยาบาลทุกแห่งรับคนป่วยด้วยไข้หวัดในขั้นตอนแรกโดยไม่เลือกปฏิบัติกับคนที่ถื่อบัตรทองหรือไม่มีเงินจ่าย และมาตรการนี้ควรใช้กับโรงพยาบาลเอกชนและรัฐ
  5. มาตรการการปิดเมืองมักไม่มีผล เพราะไม่มีที่ไหนที่ทำได้อย่างจริงจัง และประชาชนในเมืองทุกแห่งต้องได้รับอาหารและของใช้ประจำวัน มันเป็นการใช้มาตรการเผด็จการที่แค่เพิ่มความหวาดกลัว บ่อยครั้งมาตรการแบบนี้กระทำไปเพื่อให้รัฐบาล “ดูดี” เพราะสร้างภาพความเข้มงวด แต่ในความเป็นจริงไม่ได้ลดความร้ายแรงของโรคแต่อย่างใด การปิดเมืองต่างๆ ในจีนไม่ได้ทำให้โรคหยุดระบาด วิธีที่ดีกว่าคือการพัฒนาระบบสาธารณสุขให้สามารถรับมือกับปัญหาได้ ความโปร่งใสของรัฐบาล และการให้ข้อมูลกับประชาชน พลเมืองจะได้มีส่วนร่วมในการช่วยกันลดความร้ายแรงของโรคและการระบาด บางคนที่ติดเชื้อและสามารถแพร่เชื้ออาจไม่มีไข้ ดังนั้นการวัดไข้ที่ด่านต่างๆ จะมีประสิทธิภาพจำกัด ฉนั้นเราควรรณรงค์ให้มีการสร้างบรรยากาศที่ชักชวนให้คนป่วยไม่ต้องกลัวหรือหลบหนี เพราะมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างดี
  6. ใครที่มีไข้และอาการของไข้หวัดไม่ควรกังวลว่าจะถูกตัดค่าจ้างถ้าไม่ไปทำงาน รัฐบาลต้องมีการปกป้องคนป่วย เพื่อไม่ให้คนป่วยจำใจไปทำงานแล้วแพร่เชื้อ

ในระยะยาว เราต้องต่อสู้เพื่อสร้างรัฐสวัสดิการและความเท่าเทียม ซึ่งแน่นอนต้องเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย เผด็จการรัฐสภาของประยุทธ์ไม่สามารถปกป้องพลเมืองจากภัยไข้หวัดหรือภัยจากฝุ่นละอองเพราะมีแนวคิดคับแคบอนุรักษ์นิยมแบบทหาร ชอบแต่จะสั่งแต่คิดอะไรใหม่ๆไม่เป็น และไม่ไว้ใจประชาชน

 

10 ปีหลังตากใบ การเมืองแบบชุมชนนิยม ไม่ใช่คำตอบสำหรับปาตานี

ใจ อึ๊งภากรณ์

10ปีหลังอาชญากรรมรัฐที่ตากใบ คนที่รับผิดชอบคือทักษิณ ผบ.ทหาร และผบ.ตำรวจ ยังไม่ถูกนำมาขึ้นศาล ไม่ต่างจากผู้ที่ต้องรับผิดชอบกรณีอาชญากรรมรัฐอื่นๆ เช่น ๑๔ ตุลา ๖ตุลา พฤษภา ๓๕ หรือราชประสงค์ ๕๓

ถ้ามองไปข้างหน้าด้วยความหวังว่าวันหนึ่งจะมีการแก้ไขปัญหาที่ปาตานี สิ่งหนึ่งที่เราต้องระมัดระวังในอนาคต ถ้าปาตานีมีสันติภาพ คือการเมืองแบบ “ชุมชนนิยม”

การเมืองแบบชุมชนนิยมคืออะไร มันเป็นการมองปัญหาการเมืองในรูปแบบที่เชื่อว่าปัญหาที่ปาตานี หรือไอร์แลนด์เหนือ หรือบอสเนีย ฯลฯ เกิดจากความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติ ศาสนา หรือวัฒนธรรม ดังนั้นมีการเสนอว่าควรมีระบบการเมืองที่ให้แต่ละเชื้อชาติ ศาสนา หรือชุมชน มีตัวแทนทางการเมืองของตนเอง เพื่อมาแบ่งอำนาจกันกับเชื้อชาติ ศาสนา หรือชุมชนอื่น

แต่ปัญหาที่ปาตานี ไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างคนมุสลิมมาเลย์กับคนไทยพุทธ หรือระหว่างคนมุสลิมมาเลย์กับคนจีนแต่อย่างใด มันเป็นปัญหาที่มาจากความเป็นจักรวรรดินิยมของรัฐไทยหรือรัฐสยามต่างหาก ยิ่งกว่านั้นคนมุสลิมมาเลย์ ไม่ได้มีผลประโยชน์ตรงกันทุกคน คนไทยพุทธก็เช่นกัน มันมีความแตกต่างทางชนชั้นภายในทุกชุมชน ดังนั้นการเมืองแบบ “ชุมชนนิยม” เป็นการปิดหูปิดตาถึงชนชั้นและการกดขี่ขูดรีดทางชนชั้น และมันเป็นการสร้าง แล้วแช่แข็ง ความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติและศาสนาที่ไม่ได้มีมาก่อน

ในมาเลเซียกับสิงคโปร์ มีการออกแบบระบบที่นักรัฐศาสตร์เรียกว่า “Consociationalism” คือระบบการปกครองที่ “บริหาร” เชื้อชาติ โดยมีการจัดให้ทุกเชื้อชาติมีตัวแทนของตนเองในรัฐบาล ซึ่งมีการใช้รูปแบบการปกครองอย่างนี้ในไอร์แลนด์เหนือหรือในบอสเนียด้วย ในกรณีมาเลเซีย เราจะเห็นว่ารัฐบาล “แนวร่วมชาติ” ประกอบไปด้วยพรรคของชาวมาเลย์ (U.M.N.O.) พรรคของชาวจีน (M.C.A. – Malay Chinese Association) และพรรคของชาวอินเดีย (M.I.C. – Malay Indian Congress)

แต่ประเด็นปัญหาสำคัญคือตัวแทนของเชื้อชาติจะมาจากชนชั้นไหน และจะเลือกกันอย่างไร? ประเด็นชนชั้นแบบนี้ไม่มีการพิจารณาเลย เพราะคนที่เสนอ Consociationalism มักมองว่าชนชั้นไม่สำคัญ หรืออยากจะกลบความขัดแย้งทางชนชั้น อย่างไรก็ตามการที่พรรค “เถ้าแก่จีน” (พรรค M.C.A.) ถูกเลือกมาเป็นผู้แทนของชาวจีนทั้งหมด เป็นปัญหาถ้ามวลชนไม่ถูกทำให้สงบนิ่งเพื่อตามการนำของอภิสิทธิ์ชนจีน ดังนั้นการปกครองแบบ Consociationalism ย่อมประกอบไปด้วยระบบ “เผด็จการอ่อนๆ” เพื่อควบคุมความขัดแย้งทางเชื้อชาติเสมอ สิ่งนี้ดำรงอยู่ในระบบการเมืองมาเลเซียกับสิงคโปร์ในปัจจุบัน สรุปแล้วมีการยกความขัดแย้งทางเชื้อชาติมาเป็นข้ออ้างในการลดทอนสิทธิเสรีภาพทางประชาธิปไตย

คำถามหรือปัญหาที่ตามมา ซึ่งเป็นเรื่องที่แก้ยากคือ ใครเป็นผู้แทนที่แท้จริงของประชาชนเชื้อชาติต่างๆ เพราะที่แล้วมา “ผู้ใหญ่ตามประเพณี” ของเชื้อชาติต่างๆ ในหมู่บ้าน มักอ้างความชอบธรรมโบราณในการเป็นผู้แทน ทั้งๆที่อาจสังกัดคนละชนชั้นกับคนส่วนใหญ่ และทั้งๆที่ไม่มีการเลือกตั้งผู้แทนตามระบอบประชาธิปไตยเลย ถ้าจะเรียกร้องประชาธิปไตยในสังคมโดยรวม ต้องมีประชาธิปไตยในส่วนย่อยๆด้วย รวมถึงการเลือกผู้แทนของเชื้อชาติต่างๆ

ในปาตานีคนมุสลิมมาเลย์ ไม่ได้มีความคิดทางการเมืองในรูปแบบเดียว มีหลายแนวความคิด ในชุมชนพุทธ หรือในหมู่คนเชื้อสายจีน ก็มีหลายแนว และที่สำคัญคือคนมาเลย์มุสลิมจำนวนมากสามารถจับมือสมานฉันท์ทางการเมืองกับคนพุทธหรือคนจีนได้ และนั้นคือแนวทางแท้ในการสร้างสันติภาพและความสุขในปาตานี ไม่ว่าจะแยกดินแดน หรือกระจายอำนาจการปกครองภายใต้รัฐไทยใหม่