ใจ อึ๊งภากรณ์
ไวรัสโคโรน่าอู่ฮั่น (WN-CoV) เป็นไวรัสพันธุ์ใหม่ที่พึ่งเริ่มแพร่หลายระหว่างมนุษย์ เดิมมาจากสัตว์ป่าที่นำมาขายร่วมกับเนื้อสัตว์อื่นๆ ในตลาดสดที่เมืองอู่ฮั่นประเทศจีน ลักษณะของไวรัสใหม่นี้ การระบาด และความร้ายแรง ยังไม่ชัดเจน แต่เราไม่ควรจะกลัวเกินเหตุ ที่สำคัญคือควรเลือกอ่านสื่อที่ไว้ใจได้และมีคุณภาพ แทนที่จะตกใจกับข่าวปลอมในโซเชียล์มีเดีย
โคโรน่าไวรัสเกิดขึ้นตามธรรมชาติในสัตว์ และจะไม่ลามไปถึงมนุษย์ยกเว้นในกรณีพิเศษ เช่นเมื่อมีการแปรพันธุ์ในสัตว์ป่าแล้วถูกขายแบบผิดกฏหมายในตลาดสด นักวิทยาศาสตร์สงสัยว่าค้างคาวมีส่วนสำคัญในกรณีไวรัสชนิดนี้
ไข้หวัดซาร์ ( SARS – severe acute respiratory syndrome) และ ไข้หวัดเมอร์ส (MERS – Middle East respiratory syndrome ) ซึ่งเคยระบาดจนเป็นข่าว เป็นไข้หวัดที่เกิดจากไวรัสตระกูลโคโรน่าเช่นกัน
ไข้หวัดซาร์ แพร่สู่มนุษย์ผ่านแมวป่าที่ติดเชื้อจากค้างคาว และไวรัสเมอร์ส ตรวจพบครั้งแรกที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยเชื้อนี้มาจากค้างคาวแล้วติดอูฐ ก่อนแพร่ไปยังชายชาวซาอุฯ
นอกจากนี้โคโรน่าไวรัสพันธุ์อื่นในมนุษย์ทำให้เป็นหวัดธรรมดาที่ไม่ร้ายแรง
วิธีป้องกันการระบาดของไข้หวัดคือการรักษาความสะอาด ควรล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ ควรปิดปากเวลาไอหรือจาม และพยายามไม่เข้าใกล้ผู้ที่มีอาการป่วย การใส่หน้ากากจะช่วย
เนื่องจากไข้หวัดเกิดจากไวรัส การใช้ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) ไม่มีประโยชน์ในการฆ่าเชื้อไวรัส สิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุดในการฆ่าไวรัสคือระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเราตามธรรมชาติ และการกินยาลดไข้ธรรมดา อย่างไรก็ตามถ้าเป็นไข้หวัดแล้วเกิดโรคแทรกเช่นปอดอักเสบ ที่มาจากเชื้อบักเตรี ยาปฏิชีวนะจะมีประโยชน์ นอกจากนี้ถ้าใครมีอาการหนักในแง่ของการหายใจด้วยความยากลำบาก และคนที่มีร่างกายอ่อนแอ หรือเป็นคนอายุสูง จะต้องเข้าโรงพยาบาล เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือในการหายใจ
คนที่มีอาการไม่ร้ายแรง ควรหลีกเลี่ยงการไปหาหมอหรือเข้าโรงพยาบาลถ้าเป็นไปได้ เพราะจะทำให้วิกฤตโรคระบาดร้ายแรงขึ้นในชุมชน และถ้าป่วยไม่ควรใช้ระบบขนส่งมวลชน
ท่าทีของนักสังคมนิยมต่อปัญหาไข้หวัด
- เราควรเรียกร้องให้รัฐบาลประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าอู่ฮั่น ข้อมูลต้องมีมาตรฐานวิทยาศาสตร์และเข้าใจง่าย เพื่อให้คนป้องกันตัวได้ นอกจากนี้รัฐบาลควรเปิดศูนย์รับสายโทรศัพท์พิเศษ เพื่อให้ประชาชนปรึกษาเจ้าหน้าที่อนามัยได้
- เราไม่ควรมองนักท่องเที่ยวจีนด้วยอคติ หรือการเหยียดเชื้อชาติ
- เราควรเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาอธิบายว่าได้เตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับไข้หวัดอย่างไร เช่นรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการในโรงพยาบาลต่างๆ อุปกรณ์สำหรับตรวจพันธุ์ไวรัส อุปกรณ์สำหรับการป้องกันเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล อุปกรณ์สำหรับการรักษาคนไข้และห้องพิเศษตามที่ต่างๆ โครงการการอบรมเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์เพื่อให้ประชาชนป้องกันตนเอง เช่นหน้ากากและสิ่งจำเป็นสำหรับการล้างมือ
- ถ้ามีวิกฤตการระบาดของไข้หวัด รัฐบาลควรออกประกาศให้โรงพยาบาลทุกแห่งรับคนป่วยด้วยไข้หวัดในขั้นตอนแรกโดยไม่เลือกปฏิบัติกับคนที่ถื่อบัตรทองหรือไม่มีเงินจ่าย และมาตรการนี้ควรใช้กับโรงพยาบาลเอกชนและรัฐ
- มาตรการการปิดเมืองมักไม่มีผล เพราะไม่มีที่ไหนที่ทำได้อย่างจริงจัง และประชาชนในเมืองทุกแห่งต้องได้รับอาหารและของใช้ประจำวัน มันเป็นการใช้มาตรการเผด็จการที่แค่เพิ่มความหวาดกลัว บ่อยครั้งมาตรการแบบนี้กระทำไปเพื่อให้รัฐบาล “ดูดี” เพราะสร้างภาพความเข้มงวด แต่ในความเป็นจริงไม่ได้ลดความร้ายแรงของโรคแต่อย่างใด การปิดเมืองต่างๆ ในจีนไม่ได้ทำให้โรคหยุดระบาด วิธีที่ดีกว่าคือการพัฒนาระบบสาธารณสุขให้สามารถรับมือกับปัญหาได้ ความโปร่งใสของรัฐบาล และการให้ข้อมูลกับประชาชน พลเมืองจะได้มีส่วนร่วมในการช่วยกันลดความร้ายแรงของโรคและการระบาด บางคนที่ติดเชื้อและสามารถแพร่เชื้ออาจไม่มีไข้ ดังนั้นการวัดไข้ที่ด่านต่างๆ จะมีประสิทธิภาพจำกัด ฉนั้นเราควรรณรงค์ให้มีการสร้างบรรยากาศที่ชักชวนให้คนป่วยไม่ต้องกลัวหรือหลบหนี เพราะมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างดี
- ใครที่มีไข้และอาการของไข้หวัดไม่ควรกังวลว่าจะถูกตัดค่าจ้างถ้าไม่ไปทำงาน รัฐบาลต้องมีการปกป้องคนป่วย เพื่อไม่ให้คนป่วยจำใจไปทำงานแล้วแพร่เชื้อ
ในระยะยาว เราต้องต่อสู้เพื่อสร้างรัฐสวัสดิการและความเท่าเทียม ซึ่งแน่นอนต้องเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย เผด็จการรัฐสภาของประยุทธ์ไม่สามารถปกป้องพลเมืองจากภัยไข้หวัดหรือภัยจากฝุ่นละอองเพราะมีแนวคิดคับแคบอนุรักษ์นิยมแบบทหาร ชอบแต่จะสั่งแต่คิดอะไรใหม่ๆไม่เป็น และไม่ไว้ใจประชาชน