ใจ อึ๊งภากรณ์
ทุกคนที่รักประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนจะต้องประณามเผด็จการทหารไทยที่มีส่วนในการวิสามัญฆาตกรรม สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ สหาย “ภูชนะ” และสหาย “กาสะลอง”

ประยุทธ์เปื้อนเลือดอีกแล้ว
หลังการพิสูจน์ด้วยดีเอ็นเอว่าสองศพที่ติดฝั่งแม่น้ำโขงที่นครพนม คือศพของสหายภูชนะกับสหายกาสะลอง ทั้งภรรยาและนักข่าวหลายคนที่เชื่อถือได้ ร่วมกันมองว่าสหายสุรชัยก็ถูกฆ่าไปแล้ว และศพที่สามของ สุรชัย หายไป
สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ สหายภูชนะ และสหายกาสะลอง เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และเป็นผู้ลี้ภัยในประเทศลาวจากเหตุการณ์รัฐประหาร ๒๕๕๗ เขาทั้งสามหายออกจากที่พักโดยที่ไม่มีใครสามารถติดต่อได้เป็นเวลานานกว่าหนึ่งเดือนก่อนที่จะพบศพ
เผด็จการทหารไทยมีประวัติในการเกี่ยวข้องกับการอุ้มฆ่าคนที่เห็นต่างหรือวิจารณ์สถาบันกษัตริย์ “โกตี๋” กับ “ดีเจซุนโฮ” ที่อยู่ในประเทศลาวเช่นกัน เป็นตัวอย่างที่ดีของการถูกอุ้มฆ่า ในกรณี โกตี๋ เขาถูกอุ้มโดยชายไทยแต่งชุดดำที่ข้ามพรมแดนมาจากไทย
รัฐบาลเผด็จการทรราชในไทยและทั่วโลก ที่ใช้วิธีการจัดตั้งกองกำลังลับเพื่อฆ่าวิสามัญฝ่ายตรงข้าม มักจะออกมาโกหกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมแบบนี้เป็นธรรมดา และวิธีการที่พวกนี้ใช้มักจะไม่เหลือหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรให้เราสืบค้นได้ แต่นั้นไม่ได้แปลว่ารัฐบาลของประยุทธ์ไม่ได้มีส่วนในการฆ่า สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ สหายภูชนะ และสหายกาสะลอง เพราะอะไร?
ในประการแรก เราทราบดีว่าทั้งประยุทธ์จอมเผด็จการ ประวิตรหมูโสโครก และพรรคพวกคนอื่นๆ มีนิสัยโกหกเป็นสันดาน
ในประการที่สอง ประยุทธ์มีประวัติเปื้อนเลือดจากการฆ่าเสื้อแดงที่ไร้อาวุธในขณะที่เรียกร้องประชาธิปไตยในสมัยรัฐบาลทหารที่มีอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี
ในประการที่สาม กองทัพไทยใช้กองกำลังลับ เพื่อฆาตกรรมวิสามัญคนมาเลย์มุสลิมที่ต่อต้านรัฐบาลไทยในปาตานี และใช้อย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้
ในประการที่สี่ รัฐบาลเผด็จการของประยุทธ์ใช้อำนาจเถื่อนในการปราบปรามคนที่คิดต่าง โดยเฉพาะผ่านการใช้กฏหมาย 112 สิ่งนี้บวกกับการคลั่งเจ้าของทหาร ทำให้พวกโจรป่าเถื่อนสุดขั้วอย่าง พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา หัวหน้าแก๊ง “เก็บขยะ” ได้ใจในการข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามอย่างรุนแรง โดยที่ไม่เคยโดนรัฐบาลลงโทษหรือปลดออกจากตำแหน่งผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ พูดง่ายๆ รัฐบาลประยุทธ์ส่งเสริมพฤติกรรมแย่ๆ ของนายเหรียญทอง
อ. ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ เคยเขียนไว้ในบทความที่เผยแพร่ใน Japan Times ว่า เหรียญทอง แน่นหนาเคยโพสธ์ในเฟสบุ๊คเกี่ยวกับคนไทยที่หลี้ภัยในฝรั่งเศสอันเนื่องมาจากการวิจารณ์สถาบันกษัตริย์ว่า “ถ้าทำได้ อยากจ้างมือปืนไปฆ่า” นั้นไม่ได้พิสูจน์ว่านายเหรียญทองเกี่ยวข้องกับการฆ่าวิสามัญในลาว แต่มันสะท้อนระบบคิดของพวกคลั่งเจ้าและความมั่นใจว่ามันจะลอยนวลเมื่อก่ออาชญากรรม [ดู https://bit.ly/2UaJYnq]
ในประการสุดท้าย ไม่ว่าประยุทธ์กับพรรคพวกจะสั่งหรือไม่สั่งให้มีการฆ่าสหายสุรชัยกับสหายอื่น แต่การที่คนฆ่าน่าจะเกี่ยวกับกองทัพ และการที่แก๊งประยุทธ์ยึดอำนาจมาปกครองประเทศ แปลว่าคณะเผด็จการต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเราต้องประณามพฤติกรรมของเขา
การที่คนไทยผู้รักประชาธิปไตยข้ามไปหลี้ภัยในลาว ไม่ได้ทำให้รัฐบาลลาวปกป้องเขาแต่อย่างใด เพราะลาวไม่ได้ให้สถานะผู้หลี้ภัยเป็นทางการ แค่ปล่อยให้อยู่ ซึ่งแปลว่าอันธพาลจากกองทัพไทยสามารถข้ามฝั่งไปก่ออาชญากรรมได้อย่างง่ายดาย ในอดีตสมัยสงครามเย็นทหารไทยก็เคยแอบเข้าไปในลาวเพื่อต่อสู้กับขบวนการปลดแอกของประเทศลาว ซึ่งถือว่าเป็นการแทรกแซงที่ไร้ความชอบธรรม
เป็นที่น่าเสียดายที่ประเทศตะวันตกและองค์กรสหประชาชาติไม่ได้สนใจปัญหาของผู้ลี้ภัยไทยเท่าที่ควร แต่เราต้องวิจารณ์องค์กรภายในประเทศไทยด้วย ยังไม่มีพรรคการเมืองหรือองค์กรณ์เอ็นจีโอไทยที่ออกมาวิจารณ์รัฐบาลไทยในเรื่องนี้เลย และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่กำลังเล่นละครกับรัฐบาลทหารเรื่องกฏหมายอุ้มฆ่าและทรมาน ก็เงียบเฉยในเรื่องสุรชัยและพรรคพวก มีแต่ฮิวแมนไรท์วอทช์เท่านั้นที่ออกแถลงการณ์ [ดู https://bit.ly/2Wdilfi ]
เราคงหวังอะไรไม่ได้จากรัฐบาลลาว เพราะรัฐบาลลาวเน้นรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลไทย และลาวเองก็มีการอุ้มหายไปของนักกิจกรรม ดังนั้นทุกคนที่รักประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนจะต้องประณามเผด็จการทหารไทยที่มีส่วนในการวิสามัญฆาตกรรม สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ สหาย “ภูชนะ” และสหาย “กาสะลอง”
[อ่านเพิ่มเรื่องอาชญากรรมรัฐไทยในอดีต https://bit.ly/2S5c5XT , https://bit.ly/2B50UVd ]