Tag Archives: อุบัติเหตุ

สื่อเปิดโปงเบื้องหลัง อีลอน มัสก์ นายทุนหน้าเลือดที่ชอบเบ่งอำนาจ

ใจ อึ๊งภากรณ์

[เพื่อความสะดวกในการอ่าน เชิญไปอ่านที่บล็อกโดยตรง]

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีข่าวการอาละวาดผ่านทวิตเตอร์ของนายทุนเศรษฐี อีลอน มัสก์ ด้วยการใส่ร้าย  เวิร์น อันสเวิร์ธ นักดำน้ำอังกฤษที่ร่วมทีมกู้ภัย “หมูป่า” ว่าเป็นคนที่ชอบละเมิดเด็กเล็ก โดยไม่มีหลักฐานอะไรเลย สาเหตุเพราะทีมนักดำน้ำทั้งไทยและต่างประเทศสรุปว่าเรือดำน้ำขนาดเล็กของ มัสก์ ไม่เหมาะสมที่จะกู้ทีมหมูป่าที่ติดอยู่ในถ้ำได้ สาเหตุที่ไม่เหมาะสมคือมันผ่านบางจุดในถ้ำที่มีทางโค้งและช่องแคบไม่ได้

skynews-vern-unsworth-elon-musk_4363298

ก่อนหน้านี้ มัสก์ ก็ออกมาด่าอดีตผู้ว่าราชการเชียงราย ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ว่าไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญพอที่จะออกมาพูดว่าเรือดำน้ำของ มัสก์ ใช้ไม่ได้ในกรณีถ้ำนางนอน

ข้อสรุปของหลายคน รวมถึงนักดำน้ำอังกฤษ ว่า อีลอน มัสก์ เข้ามายุ่งในเรื่องการกู้เด็กออกมาจากถ้ำ ก็เพื่อโฆษณาตนเองเท่านั้น น่าจะมีน้ำหนัก เพราะ มัสก์ ควรจะดีใจโดยไม่มีเงื่อนไขที่เด็กทุกคนและโค้ชออกมาได้อย่างปลอดภัย เหมือนคนไทยและชาวโลกนับล้านๆ แต่ มัสก์ กลับโกรธและไม่พอใจที่ข้อเสนอของตนเองถูกขัดด้วยเหตุผลและปัญญา

ก่อนหน้านี้ องค์กรข่าว Center for Investigative Reporting (CIR) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ได้รายงานถึงสภาพการทำงานในโรงงานรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ของ มัสก์ ว่ามีปัญหาเรื่องความปลอดภัยแบบเรื้อรัง [รายงานภาษาอังกฤษอ่านได้ที่นี่ https://bit.ly/2qGLpgf ]

CIR รายงานว่าอดีตหัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของบริษัทพยายามยกเรื่องอุบัติเหตุและความปลอดภัยขึ้นมาคุยกับฝ่ายบริหาร แต่ไม่มีใครสนใจ อัตราอุบัติเหตุในโรงงานของ Tesla สูงกว่าอัตราเฉลี่ยในโรงงานประกอบรถยนต์ทั่วไปของสหรัฐ คือประมาณ 8.1-8.8 ต่อคนงาน 100 คน ในปี 2017 และ2016 เทียบกับอัตรา 6.2-6.7 ในโรงงานของบริษัทอื่น และที่ Tesla มีอัตราอุบัติเหตุร้ายแรงเกือบสองเท่าอัตราเฉลี่ยของอุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐ ยิ่งกว่านั้นในปี 2017 หลังจากที่มีการวิจารณ์บริษัทเรื่องความปลอดภัย Tesla พยายามปกปิดอัตราจริงผ่านการไม่รายงานหลายเหตุการณ์ ซึ่งถือว่าผิดกฏหมาย

Economy Manufacturing

ปัญหาความปลอดภัยในโรงงาน Tesla มีหลายเรื่อง เช่นปัญหาสารเคมี การถูกเครื่องจักรบาด การถูกชนโดยรถยกชิ้นส่วน การถูกไฟดูด และการโดนเหล็กหลอมลวก CIR กล่าวว่าสภาพภายในโรงงานมีลักษณะวุ่นวายไร้ระเบียบและอุปกรณ์ยกเครื่องยนต์บางครั้งไม่ได้ถูกทดสอบก่อนนำมาใช้

อดีตลูกจ้างในทีมความปลอดภัยหลายคนสรุปกับ CIR ว่าบริษัทเร่งผลิตรถยนต์ โดยไม่ยอมพิจารณาความปลอดภัยของคนงาน ครั้งหนึ่งอดีตหัวหน้าฝ่ายความปลอดภัย ได้เตือนฝ่ายบริหารว่าในโรงงานมีความเสี่ยงว่าจะเกิดเหตุการณ์ระเบิดได้ แต่เขาถูกโต้ตอบว่าทุกอย่างต้องขึ้นกับเป้าหมายตัวเลขในการผลิตเป็นหลัก

CIR เปิดโปงว่าบรรยากาศที่มาจากวิธีบริหารแบบเผด็จการของ มัสก์ ภายในโรงงาน ทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าเถียงกับ มัสก์ และซีอีโอคนนี้ขึ้นชื่อว่าไม่ชอบกฏระเบียบและป้ายต่างๆ ที่จะเพิ่มความปลอดภัย บ่อยครั้งคนงานถูกกดดันให้ทำงานวันละ 12 ชม. สัปดาห์ละ 6 วัน เพื่อเพิ่มอัตราการผลิต

หนังสือพิมพ์ The Guardian ของอังกฤษรายงานเมื่อกลางเดือนมิถุนายนปีนี้ว่า มัสก์ ชอบสร้างภาพว่าตนเองห่วงใยลูกจ้าง แต่ในรูปธรรมไม่ทำตามคำพูด นสพ. Guardian มองว่า มัสก์ เป็นคนขี้อวด และบ่อยครั้งสิ่งที่เขาพูดไม่เป็นความจริง บริษัทของเขามีปัญหาเรื่องการละเมิดทางเพศและการเลือกปฏิบัติบนพื้นฐานสีผิวและเพศ ทั้งๆ ที่ มัสก์ ชอบประกาศว่าเขาต่อต้านสิ่งเหล่านี้ และการเร่งอัตราการผลิตทำให้ลูกจ้างคนหนึ่งพูดออกมาว่าบางวันต้องเลือกระหว่างการพักเพื่อไปกินอาหารกับการเข้าห้องน้ำ [บทความภาษาอังกฤษดูได้ที่นี่ https://bit.ly/2K2hnjq ]

ในบทความอีกชิ้นหนึ่งของ The Guardian จากเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว มีการรายงานว่ามีความพยามที่จะนำสหภาพแรงงานประกอบรถยนต์เข้ามาในโรงงานของ Tesla เนื่องจากปัญหาต่างๆ เช่นเรื่องความปลอดภัยและการบังคับให้คนงานทำโอที และเราไม่ควรแปลกใจที่ มัสก์ พยายามต้านสหภาพด้วยการใส่ร้ายต่างๆ นาๆ เดิมโรงงานแห่งนี้เคยเป็นของบริษัท GM และตอนนั้นมีสหภาพแรงงาน แต่เมื่อขายให้ Tesla และรับคนงานเข้ามาใหม่ ปรากฏว่าไม่มีสหภาพแรงงาน [บทความภาษาอังกฤษดูได้ที่นี่ https://bit.ly/2ljDiDj ]

ทั้งหมดนี้คือเบื้องหลังนายทุนเศรษฐีหน้าเลือดที่ชื่อ อีลอน มัสก์ และเราคงโล่งใจที่มันไม่มีบทบาทในการนำเด็กๆ ออกมาจากถ้ำ

 

 

ทำอย่างไรถึงจะลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงสงกรานต์?

ใจ อึ๊งภากรณ์

“สงกรานต์” เป็นเทศกาลที่คนไทยสนุกสนานด้วยการสาดน้ำใส่กัน แต่สำหรับเผด็จการทหารและพวกอภิสิทธิ์ชนต้านประชาธิปไตย เขาสาดประชาชนด้วยเลือด

สงกรานต์ปีนี้ครบรอบ 5 ปีของการเริ่มเข่นฆ่าประชาชนเสื้อแดงโดยประยุทธ์ อนุพงษ์ อภิสิทธิ์ และสุเทพ พร้อมกันนั้น การละเลยหรือคัดค้านการลงทุนโดยรัฐ ในระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัย สะดวก ราคาถูก และปลอดภัย สำหรับประชาชนส่วนใหญ่ เป็นการรดน้ำดำหัวพลเมืองไทยด้วยเลือดเช่นกัน เพราะช่วงสงกรานต์เป็นช่วงที่มีอุบัติเหตุบนท้องถนนในระดับที่เราไม่ควรยอมรับ

ประเด็นหลักเรื่องสงกรานต์ปีนี้และปีก่อนๆ คือยอดคนตายและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเฉพาะคนจนที่ต้องขับรถมอร์เตอร์ไซค์ แต่ “ไอ้ยุทธ์มือเปื้อนเลือด” คงไม่มีวันมีปัญญาหรือเจตนาที่จะแก้ปัญหานี้แต่อย่างใด เพราะการทำตัวเป็นนักเลง หรือเผด็จการกระจอกสามัญ เพื่อแอ๊คท่า “เข้มงวด” จะไม่แก้ปัญหาตรงจุดเลย

แถมพวกเผด็จการทหาร และพวกล้าหลังทั้งหลาย คงจะเปลืองน้ำลาย และใช้เวลาด่าคนหนุ่มสาวที่เล่นสงกรานต์และถอดเสื้อผ้า ว่าทำตัว “ไม่เหมาะสม” ทั้งๆ ที่พวกนายพลและคนชั้นสูงไม่เคยรู้จักคำว่าศีลธรรมในรูปธรรมความจริง การโชว์ร่างมนุษย์และการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ถ้าไม่มีการบังคับอะไรกัน เป็นสิ่งที่งดงาม ตรงข้ามกับการเข่นฆ่าประชาชนและการกอบโกยผลประโยชน์ของโจรเผด็จการ

สาเหตุหลักที่มีอุบัติเหตุบนท้องถนนมากมายในช่วงสงกรานต์ คือสังคมไทยไม่ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เหลือเฟือในการพัฒนาระบบคมนาคมและการขนส่งมวลชนที่ปลอดภัย มันมีการขาดการลงทุนโดยเฉพาะในระบบรถไฟความเร็วสูงที่ปลอดภัยและบริการประชาชนในราคาถูก

ถนนหนทางของเรา ขาดการบริการรถทัวร์ที่มีมาตรฐานที่ควบคุมอย่างดีโดยรัฐ และขาดการซ่อมถนนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกด้วย

ที่สำคัญคืออภิสิทธิ์ชน สลิ่ม ทาสรับใช้ทหาร และพวกประจบสอพลอ ไม่เคยต้องการให้รัฐลงทุนในเรื่องแบบนี้ โดยเฉพาะเรื่องที่จะบริการคนส่วนใหญ่ เราเห็นมาแล้วก่อนหน้านี้เวลาศาลเตี้ยรัฐธรรมนูญเสือกห้ามโครงการรถไฟความเร็วสูง หรือมีการ “ลงโทษ” ยิ่งลักษณ์เวลาเสนอโครงการจำนำข้าวที่ช่วยเกษตรกร

ฝ่ายที่ครองอำนาจอยู่ตอนนี้เป็นพวกล้าหลังคลั่งกลไกตลาดเสรี มันและพวกนักวิชาการอภิสิทธิ์ชนในสถาบัน TDRI มองว่าการบริการประชาชนควรทำผ่านบริษัทเอกชนที่แสวงกำไรและคิดค่าบริการสูง

แต่ทั่วโลก ระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องความปลอดภัย การบริการคนส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่คนรวย และการประหยัดพลังงาน ล้วนแต่มาจากการลงทุนโดยรัฐ เพราะการแสวงหากำไรของภาคเอกชนมองข้ามคนส่วนใหญ่และการทำประโยชน์ต่อสังคมเสมอ โครงการร่วมลงทุนกับนายทุนจากจีน ของทหารเผด็จการ เพื่อสร้างทางรถไฟใหม่ จะไม่เน้นบริการประชาชนแต่อย่างใด แต่จะเน้นการระบายสินค้าให้กลุ่มทุนแทน

ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนต้องอาศัยการลงทุนโดยรัฐในระบบขนส่งมวลชนที่มีคุณภาพและที่คิดค่าเดินทางต่ำเพื่อบริการคนส่วนใหญ่ ต้องอาศัยการลงทุนในถนนและรางรถไฟเพื่อพัฒนาคุณภาพ และนอกจากคนส่วนใหญ่จะได้ประโยชน์แล้ว เรายังสามารถประหยัดพลังงานและช่วยแก้ปัญหาโลกร้อนได้อีกด้วย

แต่แค่นั้นไม่พอ ต้องมีการเพิ่มฐานะทางเศรษฐกิจของคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่ว่ากรรมาชีพผู้ทำงานต้องกินแต่ “ค่าจ้างขั้นต่ำ” ที่ไม่เคยเพียงพอตลอดชีพ การเพิ่มฐานะทางเศรษฐกิจจะหมายความว่าคนส่วนใหญ่จะสามารถซื้อรถยนต์แทนรถมอร์เตอร์ไซค์ได้มากขึ้น เพราะรถมอร์เตอร์ไซค์อันตรายมาก

แต่แค่นั้นก็ยังไม่พออีก ในสังคมไทย ในขณะที่พวกข้างบนไม่เคยทำงานอย่างจริงจังเลย คนส่วนใหญ่ที่เป็นกรรมาชีพถูกบังคับให้ทำงานนาน วันละหลายชั่วโมง สัปดาห์ละ 6 วัน โดยเกือบจะไม่มีวันหยุดพักร้อน ในประเทศที่ขบวนการแรงงานเข้มแข็ง เขาจะมีวันพักร้อนปีละ 6 สัปดาห์ ซึ่งถ้านำมาใช้ในไทย จะแปลว่าวันหยุดสงกรานต์ไม่ได้กลายเป็นสามสี่วันแห่งการคลั่งการเดินทาง คลั่งการสนุก และคลั่งการกินเหล้า

สำหรับคนที่สงสัยว่าไทยจะเอาเงินมาจากไหนในการลงทุนพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสมัยใหม่หรือการเพิ่มฐานะทางเศรษฐกิจของประชาชน ผมมีคำตอบง่ายๆ คือ ต้องตัดงบประมาณทหารแบบถอนรากถอนโคน ซึ่งจะช่วยลดบทบาททหารเลวในสังคม และช่วยไม่ให้ทหารนำอุปกรณ์ต่างๆ มาเข่นฆ่าประชาชนอีกด้วย ต้องยกเลิกระบบกษัตริย์ และนำทรัพย์สินมหาศาลของกษัตริย์และราชวงศ์มาเป็นของกลางเพื่อพัฒนาชีวิตคนส่วนใหญ่ นอกจากนี้ต้องเก็บภาษีจากคนรวยและอภิสิทธิ์ชนชั้นสูงทุกคนโดยไม่มีการยกเว้นใคร ถ้าเขาต้องขายเพชรต้องขายที่ดินก็ต้องขายไป ถ้าอยากหนีไปที่อื่นก็หนีไป และในที่สุดเราจะสร้างงานให้ประชาชนและพัฒนาไทยให้เป็นสังคมอารยะได้

แต่สิ่งเหล่านี้ไม่มีวันเกิดขึ้นได้ ถ้าเราไม่รวมตัวกันทางการเมือง อิสระจากทักษิณและเพื่อไทย เราต้องขยันในการจัดตั้งการเมืองของกรรมาชีพ และพัฒนาความเข้มแข็งของสหภาพแรงงาน