สนับสนุนชาวปาเลสไตน์

ทุกคนที่รักความเป็นธรรมต้องประณามอิสราเอลที่ใช้ความรุนแรงสุดขั้วในการถล่มชาวปาเลสไตน์อีกครั้งที่กาซา

น้ำมันและเลือด ประวัติศาสตร์ปาเลสไตน์

น้ำมันในตะวันออกกลางเป็นสิ่งที่จักรสรรดินิยมต้องการควบคุมเป็นอย่างยิ่ง มหาอำนาจตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐในยุคนี้ เป็นผู้หนุนสร้าง อิสราเอ็ล ให้เป็น “สุนัขเฝ้าพื้นที่ตะวันออกกลาง” สหรัฐทำงานอย่างใกล้ชิดกับ อิสราเอ็ล โดยให้เงินช่วยเหลือทางทหารมหาศาล อิสราเอล จึงคอยทำสงครามต่อต้านกลุ่มชาวอาหรับที่จะคัดค้านผลประโยชน์ของสหรัฐอย่างต่อเนื่อง และขยายดินแดนของตนเองโดยขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกไป ในขณะเดียวกันสหรัฐกลายเป็นผู้อุปถัมภ์ผู้นำทรราชอาหรับ เช่น กษัตริย์ซาอุ และพวกเผด็จการในประเทศอื่นๆ

“ไซออนนิสต์” (Zionist) แนวคลั่งชาติปฏิกิริยาสุดขั้ว

ยิวสาย ไซออนนิสต์ คือพวกฝ่ายขวาชาตินิยมจัด พวกนี้มองว่ายิวอยู่กับคนอื่นอย่างสันติไม่ได้เพราะเขาเชื่อว่าเชื้อชาติที่ต่างกันย่อมฆ่ากันหรือขัดแย้งกันเสมอ ดังนั้นเขาเสนอว่าต้องสร้างชาติ “บริสุทธิ์” ของตนเองขึ้นมา จริงๆ แล้วแนวคิดนี้ใกล้เคียงกับแนวคิดของพวกฟาสซิสต์หรือนาซีที่แสวงหาเชื้อชาติ “บริสุทธิ์” โดยการฆ่าคนยิวในยุโรป บางคนอาจแปลกใจเมื่อค้นพบว่านักการเมืองต่างๆ ในพรรครัฐบาลปัจจุบันของอิสราเอ็ลสืบทอดความคิดจากกลุ่มฟาสซิสต์ ทั้งๆ ที่ฟาสซิสต์ในยุโรป เกลียดชังและฆ่ายิว แต่จริงๆ แล้วนี่คือลักษณะสองด้านของเหรียญเดียวกันของพวกฝ่ายขวา

รัฐไซออนนิสต์ อิสราเอ็ล ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ที่มีคนอื่นอาศัยอยู่ คือพื้นที่ที่ชาวปาเลสไตน์และชาวยิวเคยอาศัยร่วมกัน ดังนั้นรัฐเชื้อชาติเดียวที่ถูกสร้างขึ้นต้องอาศัยการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากบ้านเกิด และการฆ่าชาวปาเลสไตน์ตลอด

เราต้องสมานฉันท์กับชาวปาเลสไตน์

การต่อสู้อันยาวนานของชาวปาเลสไตน์เป็นการต่อสู้ที่ควรให้กำลังใจกับผู้ถูกกดขี่ทุกคนทั่วโลก เพราะเป็นการต่อสู้ที่ไม่เคยยอมแพ้ทั้งๆ ที่เผชิญหน้ากับกำลังอาวุธของอิสราเอ็ลที่เหนือกว่าเสมอ และได้รับการหนุนหลังโดยจักรสรรดินิยมอเมริกา

ในประเทศไทยเราควรทำอะไรบ้าง? เราควรคัดค้านความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับ อิสราเอ็ล ในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในระดับรัฐบาล สถาบันการศึกษา หรือธุรกิจ และเราควรจะทำความเข้าใจและให้ข้อมูลกับกรรมาชีพและคนจนที่คิดจะไปหางานทำในอิสราเอ็ล เพราะผืนแผ่นดินอิสราเอ็ลเปื้อนเลือดของพี่น้องชาวปาเลสไตน์มานานพอแล้ว

การปฏิวัติฝรั่งเศส

โดย C. H.

ในปีค.ศ. 1789 กษัตริย์หลุยส์ที่ 16 เรียกให้มีการประชุมของ “สามสภา” (สภาพระ สภาขุนนาง และสภาสามัญชน) เพื่อหาทางเก็บภาษีเพิ่มเพื่อจ่ายหนี้ของรัฐบาล แต่ผู้แทนของสภาสามัญชน ซึ่งประกอบไปด้วยคนระดับกลางๆ ไม่ยอมก้มหัวให้พวกชั้นสูง และเมื่อกษัตริย์สั่งให้ปิดการประชุม เขาก็ย้ายไปประชุมในสนามเทนนิสและประกาศตั้งเป็น “สภาแห่งชาติ”   พวกคนชั้นกลางในระยะแรกมองว่าต้องแค่ “ปฏิรูป” การปกครองโดยคงไว้ระบบกษัตริย์ พวกนี้ขัดขวางการขยายสิทธิในการเลือกตั้งไปสู่คนธรรมดาระดับล่างด้วย เริ่มมีการก่อตั้งสมาคมต่างๆ เพื่อถกเถียงแลกเปลี่ยนการเมือง เช่นสมาคม จัคโคบิน ซึ่งมีผู้นำสำคัญชื่อ โรบสเบียร์     แต่ท่ามกลางวิกฤตการเมืองและความขัดแย้ง พวกคนจนในเมือง (sans-culottes) กับเกษตกรยากจน ไม่ได้เพิกเฉย มีการร่วมตัวกันและปลุกระดมมวลชนระดับล่างให้ออกมาต่อสู้ โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวว่ากษัตริย์จะทำรัฐประหารเพื่อปราบปรามสภาแห่งชาติ ในโอกาสนั้นมวลชนชั้นล่างบุกเข้าไปยึดป้อม บาสเตียล ที่เป็นคุกและคลังแสงอาวุธ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 14 ก.ค.

หลังจากนั้นไม่นาน มวลชนสตรีจากย่านยากจนในเมืองปารีส ซึ่งไม่พอใจกับปัญหาข้าวของขาดแคลนและราคาแพง ออกมาเดินขบวนและชักชวนให้ผู้ชายติดอาวุธสองหมื่นคน ร่วมกันเดินไปที่วังแวร์ไซ เพื่อจับกษัตริย์และลากกลับมาที่ปารีส     ในปี 1791 ความไม่พอใจของคนชั้นล่างกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมเพิ่มขึ้น และขณะที่คนจำนวนมากเข้าแถวเพื่อลงชื่อเรียกร้องให้ตั้งสาธารณรัฐ “กองกำลังแห่งชาติ” ภายใต้การนำของคนชั้นกลาง ก็กราดยิงประชาชนตายไปห้าสิบศพ การปราบปรามของฝ่ายชนชั้นกลางที่สองจิตสองใจเกี่ยวกับระบบกษัตริย์ไม่ได้ผล มีการลุกฮือรวมตัวกันของคนจนในเมืองและคนชั้นกลางที่ต้องการปฏิวัติอย่างถอนรากถอนโคน แกนนำตอนนี้กลายเป็นคนอย่าง โรบสเบียร์ และในที่สุดสภาใหม่ ที่ได้รับการเลือกตั้งจากพลเมืองชายทุกคน ก็ประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐฝรั่งเศสผ่านการยกเลิกและประหารชีวิตกษัตริย์ และการยกเลิกระบบฟิวเดิล     การปฏิวัติฝรั่งเศสไม่ได้จบลงเร็วๆ มีการเดินหน้าบ้าง ถอยหลังบ้าง ผลของการปฏิวัติเปิดทางให้มีการพัฒนาระบบทุนนิยมเต็มใบ และผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดคือนายทุนใหญ่ซึ่งไม่เคยมีความกล้าหาญที่จะนำการปฏิวัติแต่แรก พวกนายทุนจัดการกับคนก้าวหน้าอย่างโรบสเบียร์ แล้วจึงหันไปพึ่งเผด็จการกองทัพภายใต้การนำของนายทหารหนุ่มชื่อ นโปเลียน โบนาพาร์ท