มาคุย “ปฏิรูป”
กันเถิด
กันเถิด
(5) สร้างมาตรฐานสิทธิมนุษยชน
ประเทศไทยเป็นประเทศที่ไร้มาตรฐานสิทธิมนุษยชนโดยสิ้นเชิง
รากฐานปัญหาอยู่ที่การมองว่าคนไทย ไม่ใช่ “พลเมือง” ที่เท่าเทียมกัน
บ่อยครั้งมีการเรียกผู้คนด้วยคำล้าสมัยว่า “ราษฎร” ซึ่งราชบัณฑิตยสถานอธิบายว่าหมายถึงประชาชนผู้อาศัยอยู่ในแว่นแคว้นของพระราชา
มันเป็นคำจากยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่ไม่เหมาะสมกับประชาธิปไตยในยุคปัจจุบัน
รากฐานปัญหาอยู่ที่การมองว่าคนไทย ไม่ใช่ “พลเมือง” ที่เท่าเทียมกัน
บ่อยครั้งมีการเรียกผู้คนด้วยคำล้าสมัยว่า “ราษฎร” ซึ่งราชบัณฑิตยสถานอธิบายว่าหมายถึงประชาชนผู้อาศัยอยู่ในแว่นแคว้นของพระราชา
มันเป็นคำจากยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่ไม่เหมาะสมกับประชาธิปไตยในยุคปัจจุบัน
แนวความคิดว่าบางคน “สูง” บางคน “ต่ำ” ถูกผลิตซ้ำโดยพฤติกรรมของทหาร
นักการเมือง และนายทุน
ทหารระดับนายพลจึงมองว่าตนเองสามารถเข่นฆ่าประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยได้ตามอำเภอใจ
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในเหตุการณ์ ๑๔ ตุลา, ๖ตุลา, พฤษภา ๓๕, ยุคทักษิณที่ตากใบและสงครามยาเสพติด
และในปี ๒๕๕๓ เวลารัฐบาลอภิสิทธ์กับทหารเข่นฆ่าคนเสื้อแดง ไม่เคยมีใครเคยถูกลงโทษ
ในสถานที่ทำงาน
นายจ้างมักมองว่าตนเองมีสิทธิ์เผด็จการเหนือลูกจ้าง และกฏหมายแรงงานบวกกับอคติของผู้พิพากษาศาลแรงงาน
มักสนับสนุนความคิดเผด็จการอันนี้
นายจ้างมักมองว่าตนเองมีสิทธิ์เผด็จการเหนือลูกจ้าง และกฏหมายแรงงานบวกกับอคติของผู้พิพากษาศาลแรงงาน
มักสนับสนุนความคิดเผด็จการอันนี้
ในระบบยุติธรรมทั่วไป พวกที่นั่งบัลลังก์มักมองพลเมืองธรรมดาด้วยความดูถูกดูหมิ่น
และเหมือนไม่ใช่คนที่ควรได้รับความเคารพ นักโทษในคุกถูกปฏิบัติเหมือนเป็นสัตว์
แทนที่จะใช้ความคิดสากลสมัยใหม่ที่มองว่านักโทษก็มีสิทธิ์เช่นกัน
ในสังคมทั่วไป คนงานจากประเทศเพื่อนบ้านหรือผู้ลี้ภัยถูกกระทำอย่างโหดร้ายทารุณ
มีการรีดไถเงิน มีการตบตี ฆ่าแล้วเผาศพ
และบางครั้งมีการนำคนที่เป็นผู้ลี้ภัยไปขายให้พวกค้ามนุษย์ มีกรณีของ
“ลูกคนมีเส้น” ที่สามารถหลบหนีคดีฆาตกรรมได้สบาย
ทำเนียมหมอบคลานต่อคนที่อ้างตัวเป็น “ผู้ใหญ่” เป็นวิธีทำให้ผู้หมอบคลานมีฐานะเป็นสัตว์เดรัจฉาน
ไม่ใช่คนที่ยืนสองขา ทำเนียมแย่ๆ นี้ถูกกระจายลงไปสู่โรงเรียนและครัวเรือน
คนรวยมักชอบให้คนรับใช้ก้มหัวคลาน และทำงานทั้งวันทั้งคืน
แม้แต่ในภาษาพูดก็มีการเน้น “สูงต่ำ” เช่นคำว่า “หนู”
ที่สตรีถูกกล่มเกลาให้เรียกตัวเอง ซึ่งเป็นการเสริมว่าผู้หญิงเป็นคนชั้นสอง
ถ้าเราจะสร้างมาตรฐานสิทธิมนุษยชน
ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับประชาชน
สิ่งแรกที่เราต้องทำคือยุบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
เพราะองค์กรนี้เต็มไปด้วยตำรวจ ทหาร และนักวิชาการที่มีอคติต่อประชาธิปไตย
ต่อจากนั้นเราต้องรณรงค์ให้ไทยยอมรับอำนาจของศาลอาญาระหว่างประเทศ
เพื่อให้มีการลงโทษคนที่ก่ออาชญากรรมกับประชาชน
ภายในประเทศเราต้องรณรงค์ให้นำผู้บัญชาการทหาร และนักการเมืองอย่าง อภิสิทธ์ สุเทพ
และทักษิณ มาขึ้นศาลในฐานะที่ก่ออาชญากรรมรัฐ เราควรตามตัวอย่างการพยายามสร้างมาตรฐานสิทธิมนุษยชนในเกาหลีใต้
อาเจนทีนา หรือชิลี
ในระยะยาวเราต้องเพิ่มสิทธิของลูกจ้างในการเคลื่อนไหวในองค์กรสหภาพแรงงาน
เราต้องหันมาให้ความสำคัญกับสิทธินักโทษในคุก สิทธินักเรียนในโรงเรียน
และต้องรณรงค์ให้ความคิดเรื่อง “พลเมืองที่เท่าเทียม” กลายเป็นความคิดกระแสหลัก
แต่ก็อย่างที่เราเคยพูดมาเกี่ยวกับการปฏิรูป 1-4 ที่เคยเสนอมา
พวกที่เรียกร้องให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ไม่มีวันเสนอเรื่องแบบนี้